Search

Sermones

เรื่องที่ 10: วิวรณ์ (ข้อคิดเกี่ยวกับวิวรณ์)

[บทที่ 22-1] ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ ที่ซึ่งน้ำแห่งชีวิตไหลผ่าน (วิวรณ์ 22:1-21)

ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ ที่ซึ่งน้ำแห่งชีวิตไหลผ่าน
(วิวรณ์ 22:1-21)
“ท่านได้ชี้ให้ข้าพเจ้าดูแม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนแก้วไหลมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า และพระที่นั่งของพระเมษโปดก ไหลไปตามกลางถนนในนครนั้น และริมแม่น้ำทั้งสองฟากมีต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งออกผลสิบสองชนิด ออกผลทุก ๆ เดือน และใบของต้นไม้นั้นสำหรับรักษาบรรดาประ ชาชาติให้หาย จะไม่มีสิ่งใดถูกสาปแช่งอีกต่อไป พระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดกจะตั้ง อยู่ที่นั่น และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะนมัสการพระองค์ เขาเหล่านั้นจะเห็นพระพักตร์พระ องค์และพระนามของพระองค์จะประทับอยู่ที่หน้าผากเขา กลางคืนจะไม่มีอีกต่อไป เขาไม่ต้องการแสงตะเกียงหรือแสงอาทิตย์ เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเป็นแสงสว่างของเขา และเขาจะครอบครองอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ และทูตสวรรค์องค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า ‘ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์ซื่อและสัตย์จริง‘ และองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งจิตวิญญาณของผู้เผยพระวจนะ ได้ทรงใช้ให้ทูตสวรรค์ของพระ องค์สำแดงแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อให้รู้เหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งจะอุบัติขึ้นในไม่ช้า และดูเถิด เราจะมาในเร็ว ๆ นี้ ผู้ใดที่ถือรักษาคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ก็เป็นสุข ข้าพเจ้าคือยอห์นเป็นผู้ได้ยินและได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ และครั้นข้าพเจ้าได้ยินและได้เห็นแล้ว ข้าพเจ้าก็ทรุดตัวลงจะนมัสการแทบเท้าทูตสวรรค์ที่ได้สำแดงเหตุการณ์เหล่านี้แก่ข้าพเจ้า แต่ท่านห้ามข้าพเจ้าว่า ‘อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เช่นเดียวกับท่านและพวกพี่น้องของท่าน ซึ่งเป็นพวกผู้เผยแพร่พระวจนะ และพวกที่ถือรักษาถ้อยคำในหนังสือนี้ ท่านจงนมัสการพระเจ้าเถิด’ และท่านบอกข้าพเจ้าว่า ‘อย่าประ ทับตราไว้ปิดคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ เพราะว่าใกล้จะถึงเวลานั้นแล้ว ผู้ที่เป็นคนอธรรมก็ให้เขาประ พฤติอธรรมต่อไป ผู้ที่เป็นคนลามกก็ให้เขาลามกต่อไป ผู้ที่เป็นคนชอบธรรมก็ให้เขากระทำการชอบธรรมต่อไป และผู้ที่เป็นคนบริสุทธิ์ ก็ให้เขาเป็นคนบริสุทธิ์ต่อไป ดูเถิด เราจะมาในเร็ว ๆ นี้ และจะนำบำเหน็จของเรามาด้วย เพื่อตอบแทนการกระทำของทุกคน เราคืออัลฟาและโอเมกา เป็นเบื้องต้นและเป็นเบื้องปลาย เป็นปฐมและเป็นอวสาน คนทั้งหลายที่ชำระเสื้อผ้าของตนก็เป็นสุข เพื่อว่าเขาจะได้มีสิทธิ์ในต้นไม้แห่งชีวิต และเพื่อเขาจะได้เข้าไปในนครนั้นโดยทางประตู ภายนอกนั้นมีสุนัข คนใช้เวทมนต์ คนล่วงประเวณี คนฆ่ามนุษย์ คนไหว้รูปเคารพ ทุกคนที่รักการมุสาและประพฤติตาม เราคือเยซูผู้ใช้ให้ทูตสวรรค์ของเราไปเป็นพยานสำแดงเหตุการณ์เหล่านี้แก่ท่านเพื่อคริสตจักรทั้งหลาย เราเป็นเชื้อสายของดาวิด และเป็นดาวประจำรุ่งอันสุกใส พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า ‘เชิญมาเถิด’ และให้ผู้ที่ได้ยินคำกล่าวว่า ‘เชิญมาเถิด’ และให้ผู้ที่กระหายเข้ามา ผู้ใดมีใจปรารถนา ก็ให้ผู้นั้นมารับน้ำแห่งชีวิต โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย ข้าพเจ้าเตือนทุกคนที่ได้ยินคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ว่า ถ้าผู้ใดจะเพิ่มเติมคำเข้าไปในหนังสือนี้ พระเจ้าก็จะทรงเพิ่มภัยพิบัติที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้แก่ผู้นั้น และถ้าผู้ใดตัดข้อความออกจากหนังสือพยากรณ์นี้ พระเจ้าก็จะทรงเอาส่วนแบ่งของผู้นั้นที่มีอยู่ในต้นไม้แห่งชีวิต และที่มีอยู่ในวิสุทธนครนั้น ซึ่งบรรยายไว้ในหนังสือเล่มนี้ไปเสีย พระองค์ผู้ทรงเป็นพยานในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ ตรัสว่า ‘เราจะมาในเร็ว ๆ นี้แน่นอน’ อาเมน พระเยซูเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด ขอให้พระคุณแห่งพระเยซูเจ้าจงดำรงอยู่กับธรรมิกชนทั้งหลายเถิด อาเมน”
 


คำอธิบาย

 
วรรคที่ 1: ท่านได้ชี้ให้ข้าพเจ้าดูแม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมืองแก้วไหลมาจากพระที่นั่งของพระเจ้า และพระที่นั่งของพระเมษโปดก.
ในที่นี้ กล่าวว่า ยอห์นได้เห็น “แม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนแก้ว” คำว่า น้ำ ที่ใช้ในโลกนี้เป็นคำที่มีความหมายถึง ชีวิต วรรคนี้บอกเราว่าน้ำแห่งชีวิตนี้ไหลในท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ ที่ซึ่งเหล่าวิสุทธิชนจะใช้ชีวิตตลอดไป ไหลมาจากพระที่นั่งของพระเมษโปดก แม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิตให้ความชุ่มชื่นแก่อาณาจักรสวรรค์และทำทุกสิ่งให้ใหม่ ในประโยคที่ว่า “พระที่นั่งของพระเมษโปดก” “พระเมษโปดก” หมายถึง พระเยซู คริสต์ ผู้ทรงช่วยมนุษย์ให้รอดด้วยข่าวประ เสริฐของน้ำและพระวิญญาณขณะที่อยู่บนโลกนี้.
ในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ที่พระเจ้าประทานให้แก่เหล่าวิสุทธิชนของพระองค์ น้ำแห่งชีวิตจะไหลผ่าน เพราะสวนนี้ใสและสะอาดราวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม พรรณนาได้ราวกับภาพมหัศจรรย์ น้ำแห่งชีวิตที่พระเจ้าประทานให้เราไม่ได้เป็นแม่น้ำทั่ว ๆ ไป แต่เป็นน้ำที่ให้ชีวิตแก่สิ่งมีชีวิตที่นั่น ฉะนั้น ชีวิตจะประหยัดในทุก ๆ สิ่งที่มาสัมพันธ์กับแม่น้ำแห่งชีวิตนี้ เหล่าวิสุทธิชนผู้ใช้ชีวิตตามริมแม่น้ำแห่งชีวิต จะดื่มน้ำนี้ ใช้ชีวิตนิรันดร และตลอดไป.
แม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิตนี้ไหลจากพระที่นั่งของพระเจ้าและพระที่นั่งของพระเมษโปดก เหล่าวิสุทธิชนไม่มีท่านเลือกแต่สรรเสริญพระกรุณาของพระเจ้าและพระกรุณาของพระเมษโปดกในอา ณาจักรสวรรค์ใหม่ สำหรับพระเจ้าทรงสละพระกรุณาแห่งชีวิตพระองค์ให้แก่พวกเขา ผู้เขียนขอ ขอบคุณที่พระกรุณาแห่งชีวิตใหม่นี้ไหลมาจากพระที่นั่งของพระผู้เป็นเจ้า.
 
วรรคที่ 2: ไหลไปตามกลางถนนในนครนั้น และริมแม่น้ำทั้งสองฟากมีต้นไม้แห่งชีวิตซึ่งออกผลสิบสองชนิดออกผลทุกๆ เดือน และใบของต้นไม้นั้นสำหรับรักษาบรรดาประชาชาติให้หาย.
ขบวนพระกรุณาที่แสนวิเศษจากพระผู้เป็นเจ้ายังมีให้เหล่าวิสุทธิชนในท้องฟ้าต่อไป ในที่นี้พระวจนะบอกเราว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานต้นไม้แห่งชีวิตให้เราอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำและอนุญาต ให้เราทานผลไม้ได้ ต้นไม้แห่งชีวิต ที่ออกผลสิบสองชนิด ออกผลทุก ๆ เดือน ทำให้ชีวิตใหม่แข็ง แรงในที่นี้ยังกล่าวอีกว่าใบของต้นไม้นั้นสำหรับรักษาบรรดาประชาชาติให้หาย.
เพราะพระกรุณาที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสละให้แก่เหล่าวิสุทธิชนนั้นช่างยิ่งใหญ่และยินดียิ่งนัก ทุกสิ่งที่เราทำได้ก็เพียงสรรเสริญพระองค์และพระเจ้า พระบิดา ขณะนี้ ทุกสิ่งที่วิสุทธิชนควรทำคือไม่ควรพยายามทำอะไรที่มีค่าสำหรับพระผู้เป็นเจ้าตามใจตน แต่เพียงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าด้วยใจอันขอบคุณดีกว่าเพื่อให้เขาได้ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่และชีวิตใหม่ผู้เขียนขอสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าเพื่อทำให้หัวใจของวิสุทธิชนตะโกนเพียงว่า “ขอขอบคุณพระองค์ พระผู้เป็นเจ้า ฮาเลลูยา.”
 
วรรคที่ 3: จะไม่มีสิ่งใดถูกสาปแช่งอีกต่อไป พระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดกจะตั้งอยู่ที่นั่น และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะนมัสการพระองค์.
เพื่อให้วิสุทธิชนใช้ชีวิตในแผ่นดินสวรรค์ พระเจ้าประทานพระพรแห่งการขจัดคำสาปตลอดไป พระที่นั่งของพระเจ้าและพระที่นั่งของพระเมษโปดกที่เหล่าวิสุทธิชนชี้ให้เราเห็นคือ วิสุทธิชนที่ใช้ชีวิตในแผ่นดินสวรรค์จะนมัสการพระเมษโปดกที่กลางใจของพวกเขาดังนั้น หัวใจของเหล่าวิสุทธิชนจะดำเนินไปด้วยความสวยงามและความจริง และชีวิตของเขาจะเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี.
จากประโยคที่ว่า “บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะนมัสการพระองค์” เราจะเห็นได้ว่าเหล่าวิสุทธิชนใช้ชีวิตอยู่ในแผ่นดินสวรรค์ ได้รับการห่อหุ้มด้วยพระสิริแห่งการนมัสการพระผู้เป็นเจ้าที่ใกล้ชิดพระองค์เป็นอันมาก แผ่นดินสวรรค์ ที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่ คือแผ่นดินที่สวยงาม และโอ่โถงที่สุด.
ฉะนั้น ผู้รับใช้ของพระองค์ที่นมัสการพระองค์อยู่ข้าง ๆ พระผู้เป็นเจ้า ก็จะชื่นชมยินดีกับพระสิริของพระองค์อย่างใกล้ชิด ประโยคนี้บอกเราว่าแผ่นดินสวรรค์จะมีบรรดาผู้รับใช้พระองค์ คำว่า “ผู้รับใช้” หมายถึง ความต่ำต้อย แต่ผู้รับใช้ที่คอยนมัสการพระผู้เป็นเจ้าผู้น่าสรรเสริญ ใกล้ชิดกับพระองค์นั้นเป็นสุขที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ เพราะเขาได้รับการห่อหุ้มในความสง่างามที่ไม่อาจจะบรรยายได้ ผู้คนเหล่านั้นที่เป็นผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าในแผ่นดินสวรรค์ และบนแผ่นดินโลกนี้ก็เป็นผู้ที่ได้รับการห่อหุ้มด้วยพระสิริของสรวงสวรรค์ทั้งหมด และเป็นผู้ที่มีความสุขที่สุด.
 
วรรคที่ 4: เขาเหล่านั้นจะเห็นพระพักตร์พระองค์ และพระนามของพระองค์จะประทับอยู่ที่หน้าผากเขา.
เหล่าวิสุทธิชนและผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าทุกท่านเป็นของผู้ใด? พวกเขาเป็นของพระผู้เป็นเจ้า เป็นประชาชนของพระผู้เป็นเจ้าและบุตรของพระเจ้า คนเหล่านั้นที่นมัสการพระผู้เป็นเจ้าในแผ่นดินสวรรค์จะมีพระนามของพระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่ที่หน้าผากเขาพระผู้เป็นเจ้าทรงปกป้องและอวยพรให้แก่เขา เพื่อให้เขาเป็นของพระองค์ เพื่อให้เหล่าวิสุทธิชนเป็นของพระองค์ หมายถึง เขาได้รับการปกคลุมในสิ่งที่สวยงามและมีความสุขที่สุด ผู้คนเหล่านั้นที่เอียงอายที่จะเป็นผู้รับใช้และเป็นของพระผู้เป็นเจ้า ก็คือผู้ที่ไม่รู้จักความสง่างามของพระองค์ และพวกเขาไม่ได้เป็นประชา กรของสรวงสวรรค์.
บนหน้าผากของวิสุทธิชนที่ใช้ชีวิตอยู่บนสวรรค์ พระนามของพระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่ นี่คือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสละให้ จากนี้ไป วิสุทธิชนก็กลายเป็นของพระองค์ ฉะนั้น แม้แต่ซาตานก็ทำร้ายเหล่าวิสุทธิชนผู้ที่เป็นของพระผู้เป็นเจ้าได้ เหล่าวิสุทธิชนและพระผู้เป็นเจ้าต้องใช้ชีวิตอยู่ในความสง่างามของสรวงสวรรค์ตลอดไป วิสุทธิชนจะได้เห็นพระพักตร์ที่น่าสรรเสริญของพระผู้เป็นเจ้าทุกวันหมายความว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตในพระพรที่น่าอัศจรรย์และความรักของพระองค์ตลอดไป.
มีอีกสิ่งหนึ่งที่เหล่าวิสุทธิชนต้องการทราบ: ตามพระเยซู คริสต์ พระเจ้า พระบิดา และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะอยู่กับพวกเขาเฉกเช่นครอบครัวเดียวกัน พวกเราต้องไม่ลืมว่า ในแผ่นดินสวรรค์ พระเจ้า พระบิดา พระเยซู พระบุตรของพระองค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์เหล่าวิสุทธิชนและทูตสวรรค์ และทุกสิ่งทุกอย่างจะใช้ชีวิตร่วมกันเป็นครอบครัวเดียว และในความสงบสุขที่สมบูรณ์แบบ ผู้เขียนของสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงทำให้เราเป็นของพระองค์.
 
วรรคที่ 5: กลางคืนจะไม่มีอีกต่อไป เขาไม่ต้องการแสงตะเกียงหรือแสงอาทิตย์ เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเป็นแสงสว่างของเขา และเขาจะครอบครองอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์.
ดังที่พระคัมภีร์ไบเบิลได้บอกเราในที่นี้ เหล่าวิสุทธิชนจะครอบครองฟ้าสวรรค์และแผ่น ดินโลกใหม่กับพระผู้เป็นเจ้า คนเหล่านั้นที่เป็นวิสุทธิชนของพระองค์โดยการเชื่อในข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญญาณ จะได้รับการช่วยให้รอดที่ทำให้เขาครอบครองท้องฟ้ากับพระผู้เป็นเจ้า และใช้ชีวิตอยู่ในความมั่งคั่ง ความสง่างาม และอำนาจของพระองค์ตลอดไป พวกเราจะแปลกใจอีกครั้งจากข่าวประเสริฐนี้ ว่าเราช่างมีข่าวประเสริฐแห่งพระพรและอำนาจที่น่าพิศวงจริง ๆ!
ผู้เขียนขอสรรเสริญพระเจ้าทั้งสามองค์ของเราเพื่อพระพรและพระสิริทั้งปวง เหล่าวิสุทธิชนผู้ที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณขณะที่อยู่บนโลกนี้จะได้ครอบครองแผ่นดินสวรรค์ช่างเป็นพระพรที่พิศวงเสียจริง! เราสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าโดยไม่มีทางเลือก สิ่งที่เหมาะสมและถูกต้องที่สุดที่พวกเขาควรทำก็คือ สรรเสริญพระเจ้า.
ในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ที่เหล่าวิสุทธิชนใช้ชีวิตอยู่ไม่จำเป็นต้องมีตะเกียง หลอด ไฟฟ้าหรือแสงอาทิตย์เพราะเหตุใดหรือ? เพราะพระเจ้าทรงเป็นแสงแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ใหม่ด้วยพระองค์เอง และที่นั่นคงจะไม่มีกลางคืน พระเจ้าทรงอนุญาตให้เหล่าวิสุทธิชนครอบครองที่นั่นตลอดไปดังเช่นบุตรของพระองค์ พระพรนี้ย้ำเราอีกครั้งว่าความกรุณาที่เหล่าวิสุทธิชนได้รับจากพระผู้เป็นเจ้านั้นยิ่งใหญ่เพียงใด.
พวกเรา เหล่าวิสุทธิชน ต้องตระหนักว่าพระพรแห่งสรวงสวรรค์ที่สละให้เราภายหลังการช่วยให้รอดของเรานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด ความกรุณาที่พระผู้เป็นเจ้าของเราสละให้แก่วิสุทธิชนของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่กว่า และสูงกว่าท้องฟ้า เหล่าวิสุทธิชนต้องไม่ปล่อยให้พระพรที่น่าพิศวงที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่เขานี้ผ่านไป วิสุทธิชนทำได้เพียงขอบคุณ และสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดรสำหรับความยิ่งใหญ่ พระสิริ และพระพรของพระองค์ที่พระองค์ทรงสละให้พวกเขา และใช้ชีวิตในความมั่งคั่งและความโอ่โถงตลอดไป อาเมน! ฮาเลลูยา! ข้าพระองค์ขอสรรเสริญพระเจ้า!
 
วรรคที่ 6: และทูตสวรรค์องค์นั้นบอกข้าพเจ้าว่า “ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์ซื่อและสัตย์จริง” และองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งจิตวิญญาณของผู้เผยพระวจนะ ได้ทรงใช้ให้ทูตสวรรค์ของพระองค์สำแดงแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อให้รู้เหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งจะอุบัติขึ้นในไม่ช้า.
“ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์ซื่อและสัตย์จริง.” พระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทำตามพระบัญญัติของพระองค์ที่พระองค์ได้สำแดงแก่วิสุทธิชนทางวิวรณ์แน่นอน นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดพระผู้เป็นเจ้าของเราจึงทรงบอกทุกสิ่งแก่เหล่าวิสุทธิชนของพระองค์ทุกท่านล่วงหน้า ราวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านผู้รับใช้ของพระเจ้า สิ่งใดคือพระวจนะที่เป็นสุขที่สุดในหนังสือวิวรณ์? มีพระวจนะที่เป็นสุขหลายพระวจนะในวิวรณ์ แต่พระวจนะที่เป็นสุขที่สุดก็คือ พระเจ้าจะทรงอนุญาตให้วิสุทธิชนครองฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่กับพระผู้เป็นเจ้า และใช้ชีวิตในอำนาจและพระสิริ.
เพราะพระเจ้าจะทรงกระทำตามงานนี้เร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอนที่สุด เหล่าวิสุทธิชนจะไม่ปล่อยให้ความเชื่อของเขาหายไป หรือหมดไป เหล่าวิสุทธิชนต้องเอาชนะความทรมาน และความลำบากยากแค้นด้วยความเชื่ออย่างมีความหวังของเขา พระผู้เป็นเจ้าของพวกเราจะไม่ทรงพลาดที่จะกระทำตามพระบัญญัติ และคำทำนายของพระองค์ทุกประการ ที่ทรงทำให้แก่เหล่าวิสุทธิชน และคริสตจักรของพระเจ้าเป็นจริง พระผู้เป็นเจ้าของพวกเราประทานผู้รับใช้ของพระองค์มายังโลกนี้ และทำให้เขาสำแดงพระวจนะแห่งคำทำนาย เพื่อว่าพระองค์จะบอกเหล่าวิสุทธิชน และคริสตจักรของพระองค์ถึงพระพรทั้งหมดนี้ได้.
 
วรรคที่ 7: “และดูเถิด เราจะมาในเร็ว ๆ นี้ ผู้ใดที่ถือรักษาคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ก็เป็นสุข.”
เพราะพระวจนะแห่งคำทำนายในหนังสือแห่งวิวรณ์นี้บอกเราถึงการถูกหลอกในอนาคตของเหล่าวิสุทธิชน ซึ่งบอกเราว่า เวลาจะมาถึงเมื่อเหล่าวิสุทธิชนถูกหลอกโดยพวกปฏิปักษ์ต่อพระ คริสต์ และจะต้องปกป้องความเชื่อของเขาจากความตาย เพราะนี่คือพระประสงค์ของพระเจ้า เหล่าวิสุทธิชนต้องห้อมล้อมการถูกหลอกของเขา เขาจะมีส่วนร่วมในการฟื้นคืนชีพ และการปลื้มปีติ ครอบครองในแผ่นดินพระคริสต์เป็นเวลากว่าพันปีที่จะมาถึง และใช้ชีวิตในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ตลอดไป ฉะนั้น เหล่าวิสุทธิชนต้องเชื่อในพระวจนะของพระเจ้าที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสแก่พวกเขาและเก็บรักษาความเชื่อของเขา ผู้ที่เป็นสุขที่สุดในยุคสุดท้ายคือผู้ที่เชื่อในพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าและใช้ชีวิตด้วยความเชื่อ.
พระเจ้าทรงบอกวิสุทธิชนว่า พระองค์จะเสด็จมาเร็ว ๆ นี้ พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาหาเราโดยไม่ล่าช้า เพื่อกระทำตามพระพรของพระเจ้าที่ไหลมาจากพระวจนะแห่งน้ำและพระวิญญาณ พระวจนะที่นำการช่วยให้รอดพ้นจากความผิดบาปมาให้เหล่าวิสุทธิชน พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมายังโลกนี้โดยเร็ว.
หลังจากได้รับการช่วยให้รอดแล้ว วิสุทธิชนต้องยึดพระวจนะแห่งพระพรของพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงสัญญาแก่เขา และรักษาความเชื่อนี้ไว้ ถ้าใจเขาสูญเสียความเชื่อในพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าไป เขาจะสูญเสียทุกสิ่ง และนี่เหตุผลว่าเหตุใดเขาต้องปกป้องความเชื่อตนไว้ในพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า อีกประการหนึ่ง พระเจ้าทรงบอกวิสุทธิชนให้รักษาความเชื่อของเขาไว้ในพระเจ้า.
 
วรรคที่ 8: ข้าพเจ้าคือยอห์นเป็นผู้ได้ยินและได้เห็นเหตุการณ์เหล่านี้ และครั้นข้าพเจ้าได้ยินและได้เห็นแล้ว ข้าพเจ้าก็ทรุดตัวลงจะนมัสการแทบเท้าทูตสวรรค์ที่ได้สำแดงเหตุการณ์เหล่านี้แก่ข้าพเจ้า.
นี่คือผู้เผยแพร่พระวจนะและวิสุทธิชนที่เผยแพร่พระวจนะแห่งคำทำนายของพระเจ้า ดัง นั้น เราต้องสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงกระทำดังที่พระองค์ได้บอกแก่พวกเขา และเราต้องเคารพเพียงพระองค์เท่านั้น ขณะที่คนบางคนพยายามที่จะยกตัวเองให้สูงเทียมเท่าพระเจ้า และได้รับการดูแลเช่นเดียวกัน พวกเขาทำเช่นนั้นเพราะเป็นผู้หลอกหลวงหรือ ผู้เผยแพร่พระวจนะจอมปลอม มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่มีค่าควรได้รับการสรรเสริญ การเคารพ ความชื่นชมยินดี และการนมัสการทั้งปวง.
 
วรรคที่ 9: แต่ท่านห้ามข้าพเจ้าว่า “อย่าเลย ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนผู้รับใช้เช่นเดียวกับท่านและพวกพี่น้องของท่าน ซึ่งเป็นพวกผู้เผยแพร่พระวจนะ และพวกที่ถือรักษาถ้อยคำในหนังสือนี้ ท่านจงนมัสการพระเจ้าเถิด.”
พวกเราต้องทำสิ่งใดเพื่อเป็นผู้เผยแพร่พระวจนะของพระเจ้าที่แท้จริง? เราต้องเชื่อในความลึกลับของข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้เสียก่อน แล้วพวกเราจะเป็นประชาชน เหล่าวิสุทธิชน และบรรดาพี่น้องซึ่งกันและกันของพระเจ้า หลังจากนี้เท่านั้นที่พระเจ้าจะทรงวางเงื่อนไขด้วยงานของพระองค์ ผู้คนเหล่านั้นที่เป็นผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า ต้องเชื่อในพระวจนะของพระองค์ และรักษาไว้ด้วยความเชื่อของเขา นี่คือผู้ที่มอบพระสิริทั้งหมดแก่พระเจ้าแทนที่จะรักษาไว้เพื่อตัวเขาเอง พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงมีค่าควรจะได้รับการเคารพ และพระสิริทั้งหมดจากทุกคนในโลกนี้ ฮาเลลูยา!
 
วรรคที่ 10: และท่านบอกข้าพเจ้าว่า “อย่าประทับตราไว้ปิดคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ เพราะว่าใกล้จะถึงเวลานั้นแล้ว.”
พระวจนะแห่งพระบัญญัติที่จารึกไว้ในวิวรณ์ต้องไม่ประทับตราไว้ เพราะใกล้จะถึงเวลานั้นแล้ว จะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น อาเมน! ขอพวกเราทุกคนจงเชื่อในพระวจนะแห่งคำทำนายในหนังสือแห่งวิวรณ์และเผยแพร่พระวจนะนี้.
 
วรรคที่ 11: “ผู้ที่เป็นคนอธรรมก็ให้เขาประพฤติอธรรมต่อไป ผู้ที่เป็นคนลามกก็ให้เขาลามกต่อไป ผู้ที่เป็นคนชอบธรรมก็ให้เขากระทำการชอบธรรมต่อไป และผู้ที่เป็นคนบริสุทธิ์ ก็ให้เขาเป็นคนบริสุทธิ์ต่อไป.”
เมื่อวันที่พระผู้เป็นเจ้ากลับมาใกล้จะมาถึง พระองค์จะปล่อยให้ผู้คนที่ค้นหาความผิดบาป ให้ค้นหาความผิดบาปต่อไป ผู้ที่เป็นคนบริสุทธิ์ ก็ให้เป็นคนบริสุทธิ์ต่อไป และผู้ที่เป็นคนลามก ก็ให้เป็นคนลามกต่อไป เมื่อยุคสุดท้ายมาถึง ผู้ที่จิตใจของเขาไร้มลทินบาปโดยการเชื่อในข่าวประ เสริฐของน้ำและพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า จะยังนมัสการข่าวประเสริฐในโลกนี้อยู่ และผู้ที่รักษาความบริสุทธิ์ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ และใช้ชีวิตด้วยความเชื่อจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป พระผู้เป็นเจ้าของเราแนะนำเราให้รักษาความเชื่อที่เรามีในขณะนี้.
 
วรรคที่ 12: “ดูเถิด เราจะมาในเร็ว ๆ นี้ และจะนำบำเหน็จของเรามาด้วย เพื่อตอบแทนการกระทำของทุกคน.”
พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมาเร็ว ๆ นี้ อีกประการหนึ่ง และประทานสรวงสวรรค์แก่โลก และฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่แก่เหล่าวิสุทธิชน ผู้ที่นมัสการและทำงานเพื่อเผยแพร่ข่าวประ เสริฐของน้ำและพระวิญญาณ เพื่อให้รางวัลแก่เขาสำหรับการเสียสละของเขา เมื่อเหล่าวิสุทธิชนเชื่อในพระวจนะแห่งคำทำนายในวิวรณ์ พวกเขาจะปกป้องความเชื่อของเขาได้จนกระทั่งเวลาสุด ท้ายจริง ๆ เพื่อที่เขาจะได้ตั้งความหวังไว้ที่พระผู้เป็นเจ้า พวกเราต้องตระหนักและเชื่อว่า พระผู้เป็นเจ้าจะประทานรางวัลการทำงานของเหล่าวิสุทธิชนด้วยพระพรอันยิ่งใหญ่ เพื่อพระผู้เป็นเจ้าผู้น่าสรรเสริญและมีพระกรุณาของเรา.
 
วรรคที่ 13: “เราคืออัลฟาและโอเมกา เป็นเบื้องต้นและเป็นเบื้องปลาย เป็นปฐมและเป็นอวสาน.”
พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงเป็นเบื้องต้นและเบื้องปลายของทุกสิ่ง พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเราและพระองค์เองก็ทรงเป็นพระเจ้า ผู้จะทรงนำความสมบูรณ์แบบของการช่วยให้รอดมาให้เรา ซึ่งมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ประทานให้แก่เราได้ ประวัติศาสตร์ทุกตอนในทุกจักรวาล ประวัติศาสตร์ทั้งของโลกและของท้องฟ้า เริ่มมาจากพระผู้เป็นเจ้า และจะจบลงเพราะพระองค์.
 
วรรคที่ 14: คนทั้งหลายที่ชำระเสื้อผ้าของตนก็เป็นสุข เพื่อว่าเขาจะได้มีสิทธิ์ในต้นไม้แห่งชีวิต และเพื่อเขาจะได้เข้าไปในนครนั้นโดยทางประตู.
เพราะสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวถึงเราคือชีวิตทั้งหมด วิสุทธิชนเชื่อในพระวจนะของพระองค์ เผยแพร่ และปกป้องพระวจนะนั้น พวกเขาทำเช่นนี้เพราะ พระวจนะที่พระผู้เป็นเจ้าของเรากล่าวถึงเหล่าวิสุทธิชนของพระองค์ และทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนั้นเป็นความจริง นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดวิสุทธิชนและผู้รับใช้ของพระเจ้าจึงรักษาพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าไว้ในใจของเขา เพื่อว่าพวกเขาจะมีสิทธิ์ได้เข้าไปทานผลไม้ของต้นไม้แห่งชีวิตที่ปลูกขึ้นในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่.
เหล่าวิสุทธิชนที่ไร้มลทินบาปเพราะเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ พยายามที่จะปกป้องความเชื่อของเขา เพื่อว่าเขาจะมีสิทธิ์ได้เข้าไปทานผลไม้ของต้นไม้แห่งชีวิตในท้องฟ้า.
 
วรรคที่ 15: ภายนอกนั้นมีสุนัข คนใช้เวทมนต์ คนล่วงประเวณี คนฆ่ามนุษย์ คนไหว้รูป0เคารพ ทุกคนที่รักการมุสาและประพฤติตาม.
ผู้คนเหล่านั้นที่ถูกกล่าวถึงในข้อความด้านบน เป็นผู้ที่ไม่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ แล้วเขาจึงไม่ได้กลับมาเกิดใหม่แม้แต่ยุคสุดท้าย พวกปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์และผู้ติด ตามของเขา นำทางประชาชนไปในทางที่ผิดด้วยสัญลักษณ์ และเวทมนต์ของเขา หลอกลวงพวกเขาอีกหลายครั้งโดยอ้างว่า ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด พวกเขานำทางประชาชนไปสู่การทำลายล้างของเขาเองโดยการทำให้เขาเคารพรูปบูชาของปฏิปักษ์พระคริสต์ พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงทิ้งให้ประชาชนเหล่านั้นอยู่ภายนอกประตูของวิสุทธนคร เพื่อว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้าไปในฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่ นครของพระผู้เป็นเจ้าจะเปิดรับเพียงเหล่าวิสุทธิชน ผู้ปกป้องความเชื่อของเขาที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ.
 
วรรคที่ 16: “เราคือเยซูผู้ใช้ให้ทูตสวรรค์ของเราไปเป็นพยานสำแดงเหตุการณ์เหล่านี้แก่ท่านเพื่อคริสตจักรทั้งหลาย เราเป็นเชื้อสายของดาวิด และเป็นดาวประจำรุ่งอันสุกใส.”
เพื่อประโยชน์ของคริสตจักรของพระเจ้า และเหล่าวิสุทธิชน พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงประทานผู้รับใช้ของพระเจ้ามาให้เรา พระองค์ทรงทำให้เขาพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น ผู้หนึ่งที่ทรงทำให้เขาพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ก็คือ พระเยซู คริสต์ พระเจ้า พระองค์เองทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเหล่าวิสุทธิชน.
 
วรรคที่ 17: พระวิญญาณและเจ้าสาวตรัสว่า “เชิญมาเถิด” และให้ผู้ที่ได้ยินคำกล่าวว่า “เชิญมาเถิด” และให้ผู้ที่กระหายเข้ามา ผู้ใดมีใจปรารถนา ก็ให้ผู้นั้นมารับน้ำแห่งชีวิต โดยไม่ต้องเสียอะไรเลย.
สำหรับทุกคนในโลกนี้ที่หิวกระหายความชอบธรรมของพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าทรงเชื้อเชิญพวกเขาเข้าไปรับพระวจนะของน้ำแห่งชีวิต ผู้ใดก็ตามที่หิวกระหายความชอบธรรมของพระเจ้า จะได้รับพระพรให้ได้พบพระผู้เป็นเจ้า เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระองค์ประ ทานให้ และได้ดื่มน้ำแห่งชีวิต นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดพระผู้เป็นเจ้าของเราจึงตรัสแก่ทุกคนให้มาหาพระเยซู ผู้ใดก็ตามจะได้รับความจริงเกี่ยวกับข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย แต่น้ำแห่งชีวิตจะจำกัดไม่ให้ผู้ที่ไม่มีความปรารถนานี้ ถ้าท่านปรารถนาเช่นนี้ ท่านจะได้ดื่มน้ำแห่งชีวิตที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้โดยการเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ.
 
วรรคที่ 18: ข้าพเจ้าเตือนทุกคนที่ได้ยินคำพยากรณ์ในหนังสือนี้ว่า ถ้าผู้ใดจะเพิ่มเติมคำเข้าไปในหนังสือนี้ พระเจ้าก็จะทรงเพิ่มภัยพิบัติที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้แก่ผู้นั้น.
พระคัมภีร์ไบเบิลเป็นพระวจนะของพระเจ้า ฉะนั้น เมื่อเราเชื่อในพระวจนะนี้เราก็เพิ่มเติมหรือตัดข้อความไม่ได้ วรรคนี้บอกเราว่า เพราะพระวจนะแห่งพระคัมภีร์ไบเบิลคือพระวจนะของพระเจ้า ไม่มีผู้ใดเชื่อในพระวจนะนี้แล้วเพิ่มเติมหรือตัดข้อความพระวจนะแห่งความจริงที่จารึกไว้ได้ และไม่เชื่อโดยทิ้งขว้างความจริงที่จารึกนี้ไว้ เราจึงต้องระมัดระวัง พระวจนะทุกคำที่พระเจ้าตรัสไว้นั้นสำคัญ ไม่มีผู้ใดสามารถทิ้งขว้างราวกับสิ่งไม่สำคัญได้.
ยังมีผู้คนที่ไม่รู้จักข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดพวกเขาจึงยังต้องได้รับการปลดปล่อยให้หลุดพ้นจากความผิดบาปของเขา เหตุใดเขาจึงยังเป็นคนบาป และเหตุใดเขาจึงเข้าไปสู่การทำลายล้างของตัวเขาเอง - แม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา เพื่อปลดปล่อยคนบาปให้หลุดพ้นจากความผิดบาป พระผู้เป็นเจ้าของพวกเราประทานน้ำและพระโลหิตของพระองค์ให้แก่พวกเขา (1 ยอห์น 5:4-5, ยอห์น 3:3-7) หลายคนยังให้ความสำคัญเพียงแค่พระโลหิตของพระเยซูบนไม้กางเขน ฉะนั้น เขาจึงยังไม่หลุดพ้นจากความผิดบาป และจะเผชิญกับความชั่วร้ายทั้งหมดที่จารึกไว้ในหนังสือวิวรณ์.
คนเหล่านั้นที่อ้างว่าเชื่อในพระเยซู และยังไม่รู้จักความจริงที่ว่าพระคริสต์ทรงรับเอาความ ผิดบาปของโลกไว้ทั้งหมดด้วยการรับบัพติศมาของพระองค์จากยอห์น ก็จะเผชิญกับการลงทัณฑ์ที่น่ากลัวยิ่งขึ้นในนรก เพราะเหตุใดหรือ? เพราะเขาไม่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้แก่เขา และยังไม่ได้กลับมาเกิดใหม่ ผู้ใดก็ตามที่ไม่รู้จักข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ จะตกเข้าไปในทะเลเพลิงที่เผาไหม้ตลอดไปและเผชิญกับความทุกข์ทรมานชั่วนิรันดร – วันแห่งความเสียใจจะมาถึงคนเหล่านี้แน่นอน.
 
วรรคที่ 19: และถ้าผู้ใดตัดข้อความออกจากหนังสือพยากรณ์นี้ พระเจ้าก็จะทรงเอาส่วนแบ่งของผู้นั้นที่มีอยู่ในต้นไม้แห่งชีวิต และที่มีอยู่ในวิสุทธนครนั้น ซึ่งบรรยายไว้ในหนังสือเล่มนี้ไปเสีย.
มีผู้ใดในพวกเราบ้างที่ความเชื่อในพระคริสต์อยู่นอกเหนือพระวจนะแห่งความจริง ที่ว่าพระเยซูทรงรับเอาความผิดบาปของมนุษยชาติทั้งหมดไว้ที่พระองค์เองโดยการรับบัพติศมาจากยอห์น และพระองค์ทรงชำระล้างความผิดบาปทั้งหมดไว้เพียงครั้งเดียวโดยการถูกตรึงกางเขน? ถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้คนเหล่านั้นจะไม่มีสิทธิ์ได้เข้าไปในวิสุทธนครของพระเจ้าแน่นอน เพราะพวกเขาไม่เชื่อในการรับบัพติศมาที่พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงรับมาจากยอห์นเพื่อรับเอาความผิดบาปของมนุษย ชาติไว้ที่พระองค์เองทั้งหมดเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็จะทำบาปที่ไม่รู้จักข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้จนถึงที่สุด.
ฉะนั้น ชาวคริสต์ต้องรับเอาความจริงที่ว่าพระเยซูทรงรับเอาความผิดบาปของมนุษยชาติไว้ด้วยการรับบัพติศมาของพระองค์จากยอห์นไว้ในใจของเขา ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะถูกกีดกันจากพระสิริแห่งการเข้าไปในวิสุทธนครที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ ถ้าท่านเชื่อว่า พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของท่าน ท่านต้องได้รับการชำระล้างความผิดบาปของท่านทั้งหมดโดยการเชื่ออย่างหมดใจว่า พระเยซูเสด็จมายังโลกนี้ ทรงรับบัพติศมาโดยยอห์นที่แม่น้ำจอร์แดน เพื่อช่วยมนุษยชาติให้รอดจากความผิดบาปของโลก และพระองค์ทรงชำระความผิดบาปทั้งหมดที่มนุษย์ทำโดยทรงรับเอาไว้ที่พระองค์เอง น้ำพุที่ใดที่ท่านจะได้รับการชำระล้างความลามกทั้งหมดของท่านคือ การรับบัพติศมาที่พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงรับไว้ การรับเอาความผิดบาปของโลกของเราไว้ที่พระองค์เอง พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงหลั่งพระโลหิตของพระองค์ และทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชำระค่าจ้างแห่งความผิดบาปของเราทุกคนด้วยการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เอง.
การรับบัพติศมาที่พระเยซูทรงรับจากยอห์น คือหลักฐานยืนยันการช่วยให้รอดจากความผิดบาปของเรา 1 เปโตร 3:21 บอกเราว่า “บัดนี้ พิธีบัพติศมาก็ช่วยท่านทั้งหลายให้รอดเช่นเดียวกัน มิ ใช่เป็นการชำระมลทินทางกาย แต่ให้มีจิตสำนึกว่าชอบจำเพาะพระพักตร์พระเจ้าโดยที่พระเยซู คริสต์ได้ทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย.” พวกเราต้องตระหนักไว้ว่า พระเยซูทรงแบกเอาความผิดบาปของโลกไปยังไม้กางเขน และทรงหลั่งพระโลหิตเพื่อชำระค่าจ้างแห่งความผิดบาปของมนุษยชาติด้วยการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เอง เพื่อประโยชน์สุขของเราเอง.
นี่คือเหตุผลว่าเหตุใด พระเจ้าจึงประทานพระวจนะเตือนมนุษยชาติอีกครั้งในวรรค 19 พวกเราต้องเชื่อในพระวจนะแห่งข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญญาณดังที่มันเป็น โดยที่ไม่เพิ่มเติมหรือตัดข้อความทิ้ง.
 
วรรคที่ 20: พระองค์ผู้ทรงเป็นพยานในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ ตรัสว่า “เราจะมาในเร็ว ๆ นี้แน่นอน.” อาเมน พระเยซูเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด!
พระผู้เป็นเจ้าของเราจะเสด็จมายังโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง และเหล่าวิสุทธิชนที่ได้รับการยกความผิดบาปโดยการเชื่อในพระผู้เป็นเจ้า และได้รับการสวมเสื้อในพระสิริของท้องฟ้า จะรอคอยการเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้เป็นเจ้าอย่างจริงจัง เพราะผู้คนเหล่านั้นที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ ต่างเตรียมตัวที่จะได้พบการเสด็จมาของพระผู้เป็นเจ้าจนบัดนี้ พวกเขายังรอพระผู้เป็นเจ้าเสด็จกลับมาและสวมเสื้อให้เขาไว้ในพระพรของพระองค์ที่ทรงสัญญาไว้กับเหล่าวิสุทธิชน ฉะนั้น เหล่าวิสุทธิชนกำลังหวังว่าพระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาเป็นครั้งที่สอง ด้วยความเชื่อและความขอบคุณ.
 
วรรคที่ 21: ขอให้พระคุณแห่งพระเยซูเจ้าจงดำรงอยู่กับธรรมิกชนทั้งหลายเถิด อาเมน.
สาวกยอห์นสรุปหนังสือแห่งวิวรณ์ด้วยคำอธิษฐานที่เป็นมงคลเพื่อพระสิริของพระผู้เป็นเจ้าของเรา พระเยซู คริสต์ เพื่อให้ผู้ที่ปรารถนาที่จะเข้าไปในวิสุทธนครซึ่งพระเจ้าประทานให้ ขอพวกเราจงเป็นเหล่าวิสุทธิชนที่เข้าไปในวิสุทธนครที่พระเยซู คริสต์ประทานให้ด้วยความศรัทธาที่มิได้ขาด.