ข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่มีให้ทั้งชาวอิสราเอลและชาวคริสต์?
เหตุใดเปาโลจึงกล่าวว่าท่านมีความเสียใจอันยิ่งใหญ่และความทุกข์โศกอยู่ในใจของเขา
เรื่อยๆเพราะเพื่อนร่วมชาติของเขาเอง? นี่เป็นเพราะเปาโลมีความปรารถนาอยู่ประการหนึ่งเพื่อพี่
น้องเพื่อนฝูงของเขาตั้งใจแน่วแน่ว่าเขาเต็มใจที่จะถูกสาปแช่งและตัดขาดจากศาสนาคริสต์เพื่อ
เห็นแก่ประโยชน์ของเขาเองตามเนื้อหนังของเขาเองเขาต้องการช่วยเพื่อนร่วมชาติของเขาเองให้
รอดจริงๆ
ในยุคสุดท้ายนี้เราสนใจที่จะประกาศข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณไปทั่วโลกเป็นอย่างยิ่งการประกาศข่าวประเสริฐแห่งความจริงคือภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าและในขณะ
เดียวกันเป้าหมายที่สำคัญที่สุดก็เพื่อผู้เชื่อที่กลับมาเกิดใหม่ไม่ว่าชาวอิสราเอลจะยอมรับข่าวประ
เสริฐของน้ำและพระวิญญาณในวันสุดท้ายหรือไม่ก็ตามก็คือจุดอีกจุดหนึ่งที่แสดงถึงความตั้งใจ
ของเรา เราต้องอธิษฐานในนามของชาวอิสราเอลกันต่อไป เพื่อว่าพวกเขาจะได้รับการช่วยให้รอด เพื่อว่าเมื่อพวกเขา
ยอมรับคำสอน เราก็จะรู้ว่าการเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้เป็นเจ้าของเราใกล้มาถึงแล้ว
หัวข้อการอธิษฐานของผมในปีนี้คืออธิษฐานเพื่อการประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูไปทั่วโลกและการยอมรับข่าวประเสริฐที่แท้จริงของชาวอิสราเอลผมยังอธิษฐานอีกว่าชาวอิสราเอล
จะรับเอาผู้รับใช้ของพระเจ้าจากชนชาติของเขาเองพระเจ้าประทานกฎบัญญัติของพระองค์ให้แก่
ชาวอิสราเอลครั้งหนึ่งและพระองค์ยังสร้างอาณาจักรแห่งปุโรหิตต่อสายพระเนตรของพระองค์
เช่นกันพระคริสต์พระองค์เองก็มาจากชนชาวอิสราเอลตามเนื้อหนังพวกเขายังปฏิเสธที่จะวางใจ
ในพระองค์และยังคงต่อต้านพระเจ้าโดยการหันหลังให้แก่พระประสงค์ของพระองค์ต่อไป
พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่เราว่าพระองค์จะทรงพบความศรัทธาได้ยาก เมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง
พระประสงค์ของพระเจ้าคือเรื่องข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่มีต้นกำเนิดมา
จากเยรูซาเล็มจะเผยแพร่ไปทั่วโลกอย่างไรก็ตามผู้คนก็ใจแข็งกันมากขึ้นในปัจจุบันหลายคนก็หนีไปจากการค้นหาความจริง
เมื่อเร็วๆนี้ภาพยนตร์เรื่อง “The Last Temptation of Christ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระเยซู ทรงเป็นเด็กนอกสมรสมาแพร่ภาพในประเทศเกาหลีเป็นเรื่องที่ดูหมิ่นศาสนาอย่างมากและตอน
กลางเรื่องก็เกี่ยวกับว่าพระเยซูไม่เคยเป็นพระเจ้าแต่เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นคือเจ้า
ชายสิษฐัทถะแห่งประเทศอินเดียซึ่งเป็นที่รู้จักมากว่าเป็นพระพุทธเจ้าภาพยนตร์เรื่องนี้เหยียด
หยามข้อเท็จจริงที่ว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรานี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุ
ใดพระเจ้าจึงตรัสว่า “แต่เมื่อบุตรมนุษย์มา ท่านจะพบความเชื่อในแผ่นดินโลกหรือ?” (ลูกา 18:8)
พระเยซูคริสต์ที่เราวางใจนั้นทรงเป็นพระเจ้าสูงส่งกว่าสัตว์โลกใดๆของพระองค์และมีค่าควรแก่การสรรเสริญตลอดกาล พระองค์ทรงประสูติมาจากชนชาวอิสราเอล พระองค์ทรงรับเอา ความผิดบาปทั้งหมดของมนุษย์ชาติได้โดยการรับบัพติสมาโดยยอห์นทรงหลั่งพระโลหิตและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนทรงฟื้นคืนพระชนม์จากความตายในวันที่สามและทรงเป็นพระผู้ช่วยให้
รอดแก่ทุกคนที่วางใจในพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นความชอบธรรมของพระเจ้าทรงปลด
ปล่อยพวกเราให้พ้นจากความผิดบาปของเราโดยการสนับสนุนผู้ที่วางใจในพระองค์
เปาโลบอกเราว่าไม่จำเป็นว่ามีชาวอิสราเอลกี่คนที่เป็นเชื้อสายของอับราฮัมผู้คนเหล่านั้น
เป็นบุตรของพระเจ้าได้ จะผู้ที่วางใจในพระเยซูเท่านั้น
ชาวอิสราเอลจะเผชิญกับการทดลองและความทุกข์ยากอีกหลายหน ในอนาคตพระประ
สงค์ของพระเจ้าก็จะบางคนที่มาวางใจในพระผู้เป็นเจ้าของเราดังเช่นพระผู้ช่วยให้รอดของเขาในวันสุดท้ายแม้ว่าพระผู้เป็นเจ้าของเราจะทรงรับเอาความผิดบาปทั้งหมดของโลกไว้รวมทั้งความ
ผิดบาปของชาวอิสราเอลด้วยเช่นกันพวกเขาก็ปฏิเสธที่จะวางใจในพระเยซูให้เป็นพระผู้ช่วยให้
รอดของเขา
ท่านอ่อนแอหรือไม่? พวกเราบางคนอาจจะอ่อนแอลงหรือเข้มแข็งขึ้นกว่าผู้อื่น แต่ต่อพระ พักตร์พระเจ้าเรากลับเต็มไปด้วยความทุกข์เราจะเป็นบุตรของพระเจ้าได้และเป็นอิสระจากความ
ผิดบาปเพียงเพราะการเชื่อว่าพระเจ้าของเราเสด็จมายังโลกนี้ทรงรับเอาความผิดบาปของเราไว้บนไหล่ของพระองค์ และทรงถูกพิพากษาและถูกลงโทษแทนเราโดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เราต้องสรรเสริญและเชื่อในอำนาจของพระเจ้าที่ทำให้เราเป็นคนของพระองค์เป็นอิสระจากความผิดบาป พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงยิ่งใหญ่จริงๆ
บางคนคิดว่าทุกสิ่งคงอยู่ได้เพราะมนุษย์เช่นพวกเขาคิดว่ากฎต่างๆถูกบัญญัติขึ้นโดยมนุษย์ อย่างไรก็ตามเราต้องทราบว่าไม่ใช่ทุกสิ่งที่เกิดจากมนุษย์สิ่งต่างๆถูกสร้างขึ้นโดยพระประสงค์
ของพระเจ้าพระเจ้าทรงสร้างโลกนี้และทั้งจักรวาลแม้แต่กฎที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ปกครองพวกเราอยู่นั้นใจความสำคัญของกฏนั้นก็มีพื้นฐานมาจากพระประสงค์ของพระเจ้า
เพราะพระเจ้าทรงทำงานทุกอย่างและทุกสิ่งทุกอย่างก็เปิดเผยออกตามพระประสงค์ของ
พระองค์ เราต้องค้นพบความชอบธรรมของพระองค์ในทุกสิ่ง เมื่อเราอ่อนแอ เมื่อเราทำบาป ต่อพระเจ้าและเมื่อเราถูกตัดขาดจากพระองค์เพราะความผิดบาปของเราพระเจ้าทรงสัญญาที่จะส่งพระเยซูคริสต์ให้แก่พวกเราพระองค์ทรงทำตามสัญญาของพระองค์โดยการประสูติของพระเยซู
คริสต์และการรับบัพติสมาของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงปลดปล่อยเราให้พ้นจากความผิดบาปของโลกด้วยการรับบัพติสมานี้
ปัจจุบันนี้เมื่อข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณเผยแพร่ไปทุกมุมโลกแผนการของ
พระเจ้าจะบรรลุเป้าหมาย เราก็จะเห็นได้ว่าสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลนั้นอยู่ตรงกลาง ฉันเชื่อ ว่าถ้าปราศจากการประทับอยู่ตรงกลางของพระเจ้าสงครามโลกอีกครั้งหนึ่งก็มีโอกาสจะเกิดขึ้น
ได้มาก
เมื่อตึกเวิร์ดเทรดเซนเตอร์ถูกระเบิด เกิดผลกระทบครั้งใหญ่ทั่วโลกถ้าโลกตกอยู่ในสง
ครามอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาและยุคนี้จะเกิดอะไรขึ้นแก่เรา?เราไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้จากสง
ครามโลกอีกครั้งหนึ่งได้แน่นอนแม้แต่ธรรมชาติก็ไม่สามารถฟื้นตัวจากความเสียหายทั้งหมดของการทำลายล้างทั้งหมดโดยพวกเราผมหวังว่าท่านจะร่วมอธิษฐานกันเพื่อให้ประกาศข่าวประเสริฐ
เรื่องน้ำและพระวิญญาณไปทั่วโลกได้อย่างสงบสุข ความกังวลของเราก็คือ ถ้าปราศจากความ สงบสุขของโลกเราจึงควรร่วมกันอธิษฐานให้เกิดความสงบสุขและพยายามขจัดสงครามและการก่อการร้าย
ไม่มีศาสนาที่มนุษย์สร้างขึ้นศาสนาใดที่จะขจัดความผิดบาปของมนุษย์ได้มีเพียงพระเยซู
คริสต์เท่านั้นที่ปลดปล่อยเราให้พ้นจากความผิดบาปของเราได้ เพียงการรับบัพติสมาของพระองค์ โดยยอห์นและพระโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขนเท่านั้นที่จะขจัดและพิพากษาความผิดบาป
ของเราได้การสรรเสริญนี้มอบให้แก่ผู้ที่เชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าเพียงหนทางเดียวที่เรา
จะหลุดพ้นจากความผิดบาปของเรา คือโดยการเชื่อในการรับบัพติสมาของพระคริสต์ และพระ โลหิตของพระองค์ไม่มีทางอื่นใดเราจะไม่ได้รับการชดเชยโดยการอธิษฐานกลับใจใหม่ตามพิธี
ทางศาสนา ดังเช่น ศาสนิกชนหลายๆคนกระทำกัน ยิ่งไปกว่านั้น หนทางเดียวแห่งการชดเชย ความผิดบาปของเราก็คือเชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าซึ่งจะปลดปล่อยเราให้พ้นจากความ
ผิดบาปของเราทั้งหมดโดยสมบูรณ์และเต็มเปี่ยมจากการประสูติของพระเยซูผู้ทรงรับเอาความผิดบาปของเราทั้งหมดโดยการรับบัพติสมาและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขน
พวกเราได้รับการช่วยให้รอดพ้นจากความผิดบาปของเราทั้งหมด โดยการเชื่อในความจริงของข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ
ความจริงนี้ได้รับการเผยแพร่ไปสู่ทุกมุมโลกเราต้องรับรู้ว่านี่คือความผิดบาปของชาว
อิสราเอลเท่าเทียมกับความผิดบาปของชาวคริสต์ที่ไม่เชื่อถือในความจริงนี้ทุกคนต้องเชื่อในข่าว
ประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ
ชนชาติทั้ง 2 ชาติทั้งอิสราเอลและชาวคริสต์ ยังคงกระทำความผิดบาปกันต่อไป ขณะที่ ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้แต่พระผู้เป็นเจ้าทรงดูแลความผิดบาปเหล่านี้ทั้งหมดเพียงครั้งเดียวและเพื่อ
ตลอดไปโดยการรับบัพติสมาของพระองค์จะมีข้อเท็จจริงใดที่ชัดเจนและเรียบง่ายไปกว่าข้อเท็จ
จริงแห่งการรับบัพติสมา และพระโลหิตบนไม้กางเขนของพระเยซูหรือไม่? เหตุใด ยอห์นจึง ให้พระเยซูทรงรับบัพติสมาและถูกตรึงบนไม้กางเขนเพื่อว่าพระองค์จะทรงรับเอาความผิดบาป
ของเราทั้งหมดไว้เพียงครั้งเดียวเพราะการไม่เชื่อในความจริงนี้หรือไม่ยอมรับความจริงนี้ไว้ในหัวใจของเขา ผู้คนจึงกำลังเผชิญกับการทำลายล้างของเขาเอง เนื่องจากความผิดบาปของเขา
การรับบัพติสมาของพระเยซู “เพราะสมควร” (มัทธิว 3:15) ทรงกระทำตามสิ่ง ชอบธรรมทุกประการ คำว่า “เพราะสมควร” หมายถึงคำว่า “hutos” ในภาษากรีกซึ่งหมายความว่า “โดยวิธีนี้”, “เหมาะสมที่สุด” หรือ “ไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากวิธีนี้” คำนี้แสดงให้เห็นว่าพระเยซูทรง รับเอาความผิดบาปของมนุษย์ชาติไว้ที่พระองค์โดยการรับบัพติสมาที่พระองค์ทรงรับจากยอห์น
โดยไม่มีวันกลับคืนเพราะพระเยซูทรงรับเอาความผิดบาปทั้งหมดของโลกไว้โดยการรับบัพติสมาโดยยอห์นพระองค์ทรงแบกไม้กางเขนและหลั่งพระโลหิตลงบนไม้กางเขนแทนเราเราต้องตระ
หนักไว้ว่านี่คือข้อเท็จจริงแห่งการชำระบาปซึ่งมนุษย์ทุกชนชาติจะได้รับการชำระความผิดบาปได้ด้วยความจริงนี้
พระผู้เป็นเจ้าของเราตรัสแก่เราว่า “ถ้าท่านยึดถือพระวจนะของเรา ท่านจะเป็นสาวกที่แท้ จริงของเราและท่านจะรู้ความจริงและความจริงจะทำให้ท่านหลุดพ้น”การรับบัพติสมาและพระ
โลหิตของพระเยซูคือความจริง ของพระเจ้าซึ่งปลดปล่อยเราให้พ้นจากความผิดบาปของเรา ซึ่งมี พื้นฐานมาจากพระวจนะของพระเจ้าที่จารึกไว้ความจริงแห่งการชำระบาปคือการสิ้นสุดเพื่อความ
เป็นนิรันดร์ด้วยข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญญาณซึ่งพระเจ้าพระบิดาทรงตัดสินพระทัยให้มีการชดใช้บาปของมนุษย์โดยการรับบัพติสมาและพระโลหิตของพระเยซูบนไม้กางเขนซึ่งเป็น
พระประสงค์ของพระองค์เมื่อเราเชื่อในการรับบัพติสมาของพระองค์และพระโลหิตเพื่อการไถ่
บาปของเรา เราก็เชื่อในสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดไว้ให้เราความผิดบาปของเราได้รับการไถ่ถอนเพียง
เพราะเราเชื่อในความจริงแห่งนำและพระวิญญาณ
ถ้าท่านเชื่อในการรับบัพติสมาและพระโลหิตของพระคริสต์บนไม้กางเขนหรือความจริง
แห่งการชดใช้บาปให้เป็นดังเช่นการไถ่บาปของท่านในขณะนี้จริงๆแล้วท่านก็บริสุทธิ์ในทางตรงกันข้ามถ้าท่านไม่เชื่อแล้วท่านก็ยังเป็นคนบาป“เพราะทุกคนที่กระทำความผิดบาปและขาดการ
สรรเสริญพระเจ้าไปชั่วขณะ”พวกเราจะได้รับการอภัยต่อบาปของเราทั้งหมดและกลายเป็นบุตร
ของพระเจ้าเพียงเพราะการวางใจในพระเยซูคริสต์ ให้พระองค์เป็นเช่นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ไม่มีเหตุผลว่าเหตุใดคนบางคนจึงไม่ควรเชื่อในความจริงแห่งข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญ
ญาณ ไม่มีผู้ใดที่ไม่ต้องการคำสอนแห่งการชำระบาปนี้ ทุกคนต้องการคำสอนนี้แล้วเหตุใด เล่า ที่จะไม่มีผู้ใดที่ไม่ต้องการเชื่อในสิ่งนี้ในเมื่อความจริงแห่งข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญญาณ
อันชัดเจนนั้นได้เริ่มขึ้นต่อหน้าเขาหรือเธอแล้วเขาหรือเธอจะไม่เต็มใจที่จะชำระล้างความผิดบาปของเขาหรือเธอหรือ?
หลายคนทั่วโลกยอมรับข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญญาณแล้วและเผยแพร่ข่าวประ
เสริฐนี้ต่อไปมีบางคนต้องการจะเป็นอาสาสมัครแจกหนังสือของเราถ้าท่านได้รับการปลดปล่อย
จากความผิดบาปของท่านเพียงเพราะการเชื่อในพระโลหิตแห่งไม้กางเขนแล้วทุกคนในโลกนี้จะ
ปราศจากมลทินบาปหลุดพ้นจากความผิดบาปถ้าบุคคลใดบุคคลหนึ่งเชื่อเพียงพระโลหิตแห่งไม้
กางเขนบุคคลนั้นก็ยังคงกระทำความผิดบาปต่อไปยังคงอธิษฐานเพื่อกลับใจใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
เป็นกิจวัตรดังเช่นผู้ที่อธิษฐานแต่ละคนทำเป็นประจำกระทำเช่นนี้อยู่ต่อไปและเป็นเพียงพิธีทาง
ศาสนาเท่านั้น
ถ้าท่านกำลังพยายามที่จะชำระล้างมลทินบาปของท่านโดยการอธิษฐานกลับใจใหม่ดังนั้นท่านกำลังกระทำความผิดบาปอันยิ่งใหญ่ต่อพระเจ้าโดยแท้จริงเพราะการกระทำของท่านได้ลด
คุณค่าของความชอบธรรมของพระเจ้าซึ่งได้รับการเติมเต็มไม่ใช่เพราะความพยายามของท่านเอง แต่เพียงเพราะการรับบัพติสมาของพระเยซูและการบูชาของพระองค์บนไม้กางเขนพระเยซูทรง
รับเอาความผิดบาปของท่านทั้งหมดไว้ด้วยการรับบัพติสมาและทรงถูกลงโทษในแผ่นดินท่าน
ถ้าท่านยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของท่านเชื่อว่าการชดใช้บาปของท่านนั้นเป็นได้โดยการรับบัพติสมาของพระเยซูและการถูกตรึงบนไม้กางเขนของพระองค์พระเยซูทรงสัญญาว่าจะปลดปล่อยคนบาปให้พ้นจากความผิดบาปของเขาและพระองค์ทรงประสูติขึ้นตามพระสัญ
ญาของพระองค์โดยการรับบัพติสมาจากยอห์นที่แม่น้ำจอร์แดนและทรงหลั่งพระโลหิตบนไม้กางเขนเพื่อบรรลุตามความชอบธรรมของพระเจ้า มีเหตุผลอันใดที่เราจะไม่เชื่อในความจริงนี้หรือ? ท่านต้องเชื่อในการรับบัพติสมาของพระเยซูและการหลั่งพระโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขน เปรียบดังเช่นการชำระบาปของท่าน
ความจริงที่ว่าพระเยซูทรงรับเอาความผิดบาปของโลกไว้ที่พระองค์ขณะที่พระองค์ทรงรับบัพติสมา ในมัทธิว 3:13-17 มีเพียงผู้ที่ไม่เต็มใจรับการอภัยต่อบาปของเขาเท่านั้นที่จะปฏิเสธการ เชื่อในความจริงนี้ท่านเป็นบุตรของพระเจ้าได้และได้รับชีวิตนิรันดร์เพียงเพราะเชื่อในความจริง
ของข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณไม่มีสิ่งอื่นใดจะปลดปล่อยท่านให้พ้นจากความผิดบาปของท่านไม่มีสิ่งใดจะเป็นของประทานจากพระเจ้าที่ดีเลิศไปกว่าการอภัยโทษของพระองค์ในบรรดาของประทานต่างๆที่พระเจ้าประทานให้แก่เราการชดใช้ความผิดบาปของเราเป็นของประทานที่ดีที่สุดของประทานที่ดีเลิศเป็นอันดับสองที่พระเจ้าประทานแก่เราคือการมาถึงวันที่พระเยซูจะ
เสด็จลงมาโปรดโลกซึ่งเราจะได้ปกครองโลกและของประทานชิ้นที่สามคือเราจะได้ใช้ชีวิตในอาณาจักรแห่งสรวงสวรรค์และปกครองพร้อมกับพระเจ้าจนนิรันดร์แม้แต่ในยุคสุดท้ายนี้พระเจ้า
ทรงประทานความจริงแห่งการชดใช้บาปนี้ให้แก่ชาวอิสราเอลและชาวคริสต์ทั้งหลาย
ดังที่ได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิลผู้รับใช้ของพระเจ้าสองคนจะเกิดขึ้นท่ามกลางชาวอิสราเอลและพระเจ้าจะทรงแสดงปาฏิหารย์ของข่าวประเสริฐอันน่าอัศจรรย์ผ่านเขาทั้งสองชาวอิสราเอลจะได้ยินข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญญาณจากผู้รับใช้ทั้งสองท่านนี้ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงยก
ขึ้นมาจากคนของเขาเอง และคนหลายคนจะเชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระผู้ทรงโปรดของพวกเขา เรารอคอยวันนั้น ดังที่ยอห์นได้กล่าวไว้ว่า “พระเยซูเจ้า เชิญเสด็จมาเถิด” (วิวรณ์ 22:20)
เมื่อเวลาแห่งการเสด็จมาของพระผู้เป็นเจ้ามาถึงท่านจะรู้ว่าท่านยินดีเพียงไรที่ได้เชื่อใน
ความจริงนี้ ท่านจะได้รับการอภัยโทษและได้รับการช่วย ให้รอดเพราะความจริงนี้ นี่คือความ ปรารถนาอันมีค่าที่สุดของผมที่จะได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากความผิดบาปของท่านเพราะการเชื่อในความจริงแห่งข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณโลกจะเปลี่ยนไปแต่ข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณซึ่งพระเจ้าทรงช่วยเราให้พ้นจากความผิดบาปของเราด้วยคำสอนนี้นั้นจะเป็นความนิรันดร์และไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเราต้องเชื่อในความจริงนี้เพื่อได้รับการช่วยให้รอดแห่งการชดใช้บาปที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงบางทีความจริงแห่งการชำระบาปของพระเจ้าอาจจะเป็นของท่าน
พระเจ้าทรงปลดปล่อยเราโดยการสร้างภาชนะแห่งพระกรุณาให้เรา
โรม บทที่ 9 บันทึกไว้ว่า พระเจ้าทรงช่วยยาโคบเพราะว่าพระองค์รักเขามากกว่าเอซาว ดังเช่น ยาโคบถูกสร้างเป็นภาชนะแห่งพระกรุณา ขณะที่เอซาวถูกสร้างเป็นภาชนะแห่งพระเมตตา สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่าทำไม? นั่นคือ พระเจ้าทรงโปรดปรานยาโคบมากกว่าเอซาวเช่นนั้นหรือ? โดยไม่ต้องสงสัยจะมีคนหลายคนที่ถกเถียงกันว่า“เพราะพระเจ้าทรงเลือกที่จะรักบุคคลหนึ่งบุค
คลใดโดยมีอคติขณะที่ทรงเกลียดอีกบุคคลหนึ่งโดยไม่มีเหตุผลการเลือกและการพยากรณ์ของ
พระองค์นั้นผิด”
เมื่อเรามองดูโลกที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นเราจะเห็นได้ว่าการสร้างของพระองค์นั้นสวยงาม
และบริสุทธิ์เพียงไร พืชต่างๆ สัตว์ต่างๆ และสิ่งของอื่นๆทั้งหมดที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นมานั้น สมบูรณ์แบบมาก แล้วพระองค์จะทรงรักคนหนึ่งและเกลียดอีกคนหนึ่งด้วยอคติได้อย่างไร? แต่นี่ ไม่ใช่ปัญหาเพราะการไม่เชื่อฟังของอดัมและอีฟความผิดบาปจึงเข้ามาในโลกและเพราะความผิดบาปนี้ทุกคนที่เกิดมาหลังจากอดัมและอีฟจึงถูกทำนายให้กระทำผิดบาปกันต่อไปและหลีกเลี่ยง
การถูกสาปลงนรกไม่ได้เพียงเพราะพระเจ้าทรงช่วยยาโคบให้รอดพ้นจากความผิดบาปและทรง
ไม่ปล่อยเอซาว ไม่ได้หมายความว่าพระองค์ทรงกระทำผิดต่อสายพระเนตรของพระองค์ พระเจ้า ทรงมีเหตุผลทุกครั้งที่จะกระทำสิ่งใด
พวกเราพบคนหลายคนที่ประพฤติตนเช่นเอซาวได้ ในชุมชนชาวคริสต์ เช่น คนคนหนึ่ง ไม่เคยขาดการนมัสการเลยไม่ว่าจะจัดขึ้นที่ไหนหรือเมื่อไร ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน แม้ แต่บางคนก็อาจจะใช้เวลาที่โบสถ์มากกว่าที่บ้าน เปลี่ยนจากทำงานเพื่อโบสถ์ไม่ใช่เพื่อนบ้าน เรา อาจเรียกพวกเขาว่า ‘นักวิ่งแห่งศาสนา’ ได้ อย่างไรก็ตามในบรรดาพวกเขาเหล่านั้นมีหลายคนที่ ไม่ได้รับความชอบธรรมของพระเจ้าไว้อย่างจริงจังนี่เป็นเพราะพวกเขากำลังพยายามที่จะสร้าง
ความชอบธรรมของพวกเขาเองและในการกระทำเช่นนั้นเขากำลังไม่สนใจต่อความชอบธรรม
ของพระเจ้า
แม้แต่ผู้คนเหล่านั้นที่ไม่ใส่ใจต่อความชอบธรรมของพระเจ้าก็ยังต้องการไปสู่สวรรค์และต้องการให้อภัยต่อบาปของเขาแต่ความพยายามของเขาคือการพยายามที่จะสร้างความชอบธรรม
ของเขาเองต่อพระพักตร์พระเจ้าและต่อหน้าผู้อื่นไม่ได้พยายามที่จะได้รับการช่วยให้รอดพ้นจาก
ความผิดบาปของเขาพระเจ้าตรัสแก่พวกเขาผู้ที่ไม่เชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน
แล้วคนประเภทไหนที่เชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าได้ ? ผู้คนเหล่านี้คือผู้คนที่รู้ถึง
ความผิดบาปของเขาในใจของเขาเองผู้ที่รู้ว่าเขาไม่มีคุณค่าของสิ่งใดเมื่อเขาพบความชอบธรรม
ของพระเจ้าเพราะการชำระความผิดบาปของพระองค์ที่ปรากฏในข่าวประเสริฐของน้ำและพระ
วิญญาณเขาจึงเป็นคนประเภทที่เชื่อในสิ่งนั้นโดยทันทีและมอบพระสิริแด่พระเจ้าที่เราเชื่อใน
ความชอบธรรมของพระเจ้าและได้รับการช่วยให้รอดนั้นหมายความว่าเรารู้สึกสงสารผู้คนที่ต้อง
การความชอบธรรมของพระเจ้าอีกประการหนึ่งเราจะถูกพิพากษาให้ใช้ชีวิตอยู่ในมลทินบาปช่วงที่เหลือของขีวิตของเรา
แต่ผู้คนเหล่านั้นที่พบความชอบธรรมของเขาเองต่อพระพักตร์พระเจ้าคือผู้ทีมีความภาค
ภูมิใจ แต่ละคนอาจกล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ขอมอบภาษีให้แก่พระองค์ ยืนอธิษฐาน ถึงพระองค์ตลอดคืน ไม่เคยขาดการบริการในช่วงเช้าตรู่ประจำวันเป็นเวลา 10 ปีผ่านมา และประ พฤติแต่สิ่งดีๆแก่พระองค์”
อย่างไรก็ตามพระเจ้าจะทรงพอพระทัยมากขึ้นถ้าเขารู้ว่าเขาหรือเธอไม่มีความชอบธรรม
กันเลยและต้องการเชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าโดยการชำระบาปของน้ำและพระวิญญาณ
มากกว่าที่พยายามจะพิสูจน์ด้วยความพยายามของเขาหรือเธอเองว่าเขาหรือเธอไม่มีและมีไม่ได้
แม้ขณะนี้ในชุมชนชนชาวคริสต์มีจำนวนมากที่กำลังทำทุกสิ่งเพื่อแสดงความชอบธรรม
ของเขาเองบางคนก็พูดออกมาด้วยความเคารพอย่างยิ่งแต่เพราะเขาไม่เชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าที่ปรากฏขึ้นโดยข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณความผิดบาปของเขาจึงไม่ได้รับ
การชำระล้างโดยสมบูรณ์ พระเจ้าจะทรงกำหนดจุดหมายของเขาเอง เราทุกคนหวังว่า พวกเขา จะกลายเป็นบุตรของพระเจ้าที่แท้จริงโดยการอภัยต่อบาปเพราะความเชื่อในการรับบัพติสมาของพระผู้เป็นเจ้าของเรา
ในภาชนะแห่งการช่วยให้รอดเปาโลได้กล่าวไว้ว่าพระเจ้าทรงมีพระกรุณาต่อผู้ที่พระองค์ประสงค์จะมีพระกรุณาและทรงเมตตาต่อผู้ที่พระองค์จะทรงเมตตาแล้วผู้ใดเล่าที่จะเป็นผู้ได้รับ
พระกรุณาของพระเจ้า? มนุษย์ทุกคนไม่สามารถใช้ชีวิตโดยพระวจนะของพระเจ้าได้ แม้ว่าเขา ต้องการทำเช่นนั้นจริงๆเขาทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งๆที่เขาต้องการเชื่อและใช้ชีวิตโดยพระวจนะ
ของพระองค์อย่างแท้จริงเขาหยุดความรู้สึกเสียใจต่อพระพักตร์พระเจ้าถูกครอบงำอย่างผิดๆและ
คิดว่าเขาสมควรได้รับการพิพากษาให้ตกนรกดังนั้นเขาจึงขอให้พระเจ้าทรงมีพระกรุณาต่อพวก
เขาเพราะเขารู้ว่าเขาไม่ได้รับการช่วยให้รอดถ้าพระเจ้าไม่ทรงมีพระกรุณาต่อเขาเขาจึงขอพระ
กรุณาจากพระองค์อย่างสิ้นหวัง
อีกประการหนึ่งการหลุดพ้นจากความผิดบาปจะพบได้จากผู้ที่พระเจ้าทรงมีพระเมตตา
และผู้ที่พระองค์ทรงมีพระกรุณาพระเจ้าประทานข่าวประเสริฐเรื่องน้ำและพระวิญญาณแก่ผู้คน
เหล่านี้โดยการมีพระบุตรพระองค์เดียวของพระองค์ผู้ทรงรับเอาความผิดบาปทั้งหมดไว้ด้วยการ
รับบัพติสมา ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและทรงฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย ทุกสิ่ง
ทุกอย่างเพื่อปลดปล่อยพวกเขาให้หลุดพ้นจากการทำลายล้างบางอย่างของเขาพระบิดา
ของเราทรงมีพระกรุณาต่อผู้ที่น่าสงสารแต่ดูเหมือนว่าจะมีผู้ที่พระเจ้าทรงมีพระเมตตามากกว่าผู้ที่พระองค์ทรงมีพระกรุณาในโลกนี้พระเจ้าตรัสแก่เราว่าในชุมชนชาวคริสต์วันนี้มีทั้งภาชนะแห่ง
พระกรุณาและภาชนะแห่งพระเมตตา อีกประการหนึ่งมีผู้ที่พระเจ้าทรงรักและผู้ที่พระเจ้าทรงชัง
โรม 9:17 บอกเราว่า “เพราะมีข้อพระคัมภีร์ ที่กล่าวแก่ฟาโรห์ว่า ‘เพราะเหตุนี้เองเรา จึงได้ยกเจ้าขึ้น เพื่อเราจะสำแดงฤทธิ์ของเรา ให้ปรากฎทางตัวเจ้า และเพื่อให้นามของเรา กล่าว ประกาศไปทั่วโลก’”พระเจ้าทรงอนุญาตให้ผู้คนลุกขึ้นเช่นเดียวกับฟาโรห์เพื่อว่าฤทธิ์ของพระ
องค์จะเป็นที่ประจักษ์อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงแสดงความรักของพระองค์ไว้ในภาชนะแห่งพระกรุณาเพื่อว่าพระนามของพระองค์อาจจะถูกป่าวประกาศไปทั่วโลกเพราะความผิดบาปของเรา
และพระเมตตาของพระเจ้าเราทุกคนจึงถูกพิพากษาให้ตกนรกแต่เราได้รับการช่วยให้รอดจาก
ความผิดบาปของเราทั้งหมดเพราะพระเจ้าประทานความรักแห่งความชอบธรรมของพระองค์ให้
แก่เรา เพราะพระองค์ทรงมีพระกรุณาแก่ผู้คนเหล่านั้นของเราที่วางใจในพระองค์
ผู้คนเหล่านั้นที่ไม่เชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าและสนใจเพียงแค่การทำความชอบ
ธรรมของเขาเองเท่านั้นกำลังหันหน้าไปจากพระเจ้าผู้คนเหล่านี้เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงละทิ้งไว้เพราะพระเมตตาของพระองค์เพราะพระเมตตาอันทรงฤทธิ์ของพระองค์จะถูกสำแดงออกมาต้องมีผู้ที่
ยืนต่อต้านพระองค์ และด้วยสิ่งนี้ ความยุติธรรมแห่งการพิพากษาของพระเจ้าแสดงออกมา
ผู้คนเช่นเดียวกับฟาโรห์คือผู้ที่ปฏิเสธความรักแห่งความชอบธรรมของพระเจ้าพระเจ้า
ประทานภาชนะ 10 ภาชนะให้แก่ฟาโรห์ ภาชนะชิ้นสุดท้ายคือความตาย สำหรับผู้ที่ปฏิเสธพระ เจ้ามีเพียงทะเลสาปแห่งไฟบรรลัยกัลป์รอเขาอยู่นี่คือพระเมตตาแห่งฤทธาของพระเจ้า มีผู้มีอำนาจ หลายคนในโลกนี้และหลายคนที่ปฏิเสธพระเจ้าแต่พระเจ้าทรงนำพวกเขาลงมาในที่สุดเพื่อประ
กาศฤทธาแห่งพระเมตตาของพระองค์นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดพระองค์จึงทรงละทิ้งหัวใจอันแข็ง
กร้าวของผู้ที่ปฏิเสธพระองค์ไว้เดียวดาย
สิ่งสำคัญสำหรับเราก็คือ เราจะเป็นภาชนะแห่งพระกรุณาได้อย่างไร เพราะการเป็นภาชนะ นี้เราจะได้เชื่อในความรักแห่งความชอบธรรมของพระเจ้าเราไม่มีอะไรที่จะแสดงต่อพระพักตร์
พระเจ้ามากไปกว่าเราเกิดมาเพื่อเชื่อในความรักอันชอบธรรมของพระองค์พระคัมภีร์ไบเบิลบอก
เราถึงเรื่องราวเกี่ยวกับผู้เก็บภาษีและผู้ที่เคร่งศาสนาที่อธิษฐานต่อพระพักตร์พระเจ้าพระเจ้าทรงมีพระกรุณาต่อผู้ที่กล่าวถึงก่อนขณะที่พระองค์ทรงไม่มีพระกรุณาต่อฝ่ายหลังผู้คนที่เป็นเช่นผู้เก็บ
ภาษีคือผู้ที่จำได้ต่อพระพักตร์พระเจ้าว่าเขาไม่ได้ทำสิ่งที่ดีใดๆเลยและเขาขาดการสรรเสริญพระ
องค์ไปชั่วขณะแล้วจึงขอพระกรุณาของพระองค์จากพระองค์
นี่คือคนประเภทที่จะได้รับการปกคลุมไว้ด้วยความรักแห่งความชอบธรรมของพระเจ้า แต่ ผู้ที่เป็นเช่นผู้ที่เคร่งศาสนาพูดโอ้อวดว่าเขาได้ทำเพื่อพระเจ้าไว้มากมายเพียงไรอยู่เสมอว่าเขาได้
จ่ายภาษี เขาอดอาหารสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เขาอธิษฐานและเขาศรัทธาในศาสนา ขึ้นอยู่กับว่าเรา ยืนต่อพระพักตร์พระเจ้าที่ไหนเราก็จะได้รับการปกคลุมไว้ด้วยความรักแห่งความชอบธรรมหรือ
ถูกปล่อยให้ไปสู่พระเมตตาแห่งการลงทัณฑ์ของพระองค์ ถ้าเราใจแข็งขึ้นต่อพระพักตร์พระเจ้า ความผิดบาปของเราจะยังคงอยู่ตลอดไปไม่สามารถให้อภัยได้ ถ้าปราศจากการอภัยโทษ จุดหมาย ของเราก็จะเป็นนรก
ข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกผู้ที่ไม่ได้รับการช่วยให้รอดยังคงไม่ได้รับการช่วยให้รอดอันเที่ยงธรรมเพราะใจของเขาแข็งกร้าวขึ้นไม่มีสิ่งใดที่ชอบ
ธรรมในมนุษย์และเพียงเพราะความเชื่อเท่านั้นที่เราจะได้รับการปกคลุมไว้ด้วยความรักอันชอบ
ธรรมของพระเจ้า พระเจ้าทรงชังผู้ที่ปฏิเสธที่จะจดจำความชอบธรรมของพระองค์ แม้ว่าพระเจ้า ทรงสร้างเขาขึ้นมาแต่ผู้ที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณพระเจ้าจะทรงรักพวกเขา
ทุกคนและเขาจะได้รับชีวิตนิรันดร์
ทุกวันนี้ชาวคริสต์หลายคนในโลกนี้กำลังใช้ชีวิตเช่นภาชนะแห่งพระเมตตาต่อพระพักตร์พระเจ้านี่คือเหตุผลว่าเหตุใดเราจึงต้องการเรียนรู้จากหนังสือบทโรมว่าความชอบธรรมของพระ
เจ้าคืออะไรเหตุผลว่าเหตุใดพระเจ้าจึงทรงรักเพียงบางคนและไม่ใช่ผู้อื่นก็เพราะบางคนเชื่อใน
ความชอบธรรมของพระองค์ขณะที่คนอื่นไม่เชื่อ นี่คือความจริงที่ฉันต้องการจะพูด สิ่งที่พระเจ้า ทรงกระทำต่อยาโคบและเอซาวเป็นสิ่งถูกต้องในบรรดาผู้คนเหล่านี้ที่วางใจในพระเยซูมีหลายคนที่ต้องการให้พระเจ้ารักโดยที่เขาไม่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณผู้คนเหล่านี้เป็น
เหมือนเอซาวและพระเจ้าจะทรงพิพากษาเขาตามความผิดบาปของเขา
พระเจ้าประทานพระบุตรของพระองค์ให้มารับบัพติสมาโดยยอห์นเพื่อรับเอาความผิด
บาปทั้งหมดในโลกเพียงครั้งเดียวท่านเชื่อในความจริงนี้หรือไม่?ท่านเชื่อในสิ่งนี้จนล้ำลึกภายใน
ใจของท่านจริงๆหรือไม่ ? เราจะได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากความผิดบาปของเราทั้งหมดได้
เพียงครั้งเดียวเมื่อเราเชื่อในความจริงแห่งข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณซึ่งความชอบ
ธรรมของพระเจ้าจะถูกแสดงออกมาพระเยซูทรงรับเอาความผิดบาปทั้งหมดของโลกนี้และแบก
มันไว้บนไหล่ของพระองค์และทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนและทรงฟื้นคืนพระชนม์จากความตายทั้งหมดเพียงครั้งเดียวเพื่อว่าเราจะได้ปลดปล่อยให้พ้นจากความผิดบาปของเรามีครั้งเดียวเช่นกัน
แต่ถ้าเราพยายามที่จะได้รับการไถ่บาปโดยไม่เชื่อในความชอบธรรมของพระเจ้าเราก็ทำ
บาปต่อพระองค์ถ้าเราไม่เชื่อในความชอบธรรมของพระองค์แล้วนั่นย่อมหมายความว่าพระเยซู
คริสต์ทรงต้องรับบัพติสมาแล้วสิ้นพระชนม์เพื่อความผิดบาปของเราทุกวันพระเจ้าทรงเลือกหน
ทางแต่ละหนทางในความฉลาดรอบรู้อันไม่สิ้นสุดของพระองค์ใช่หรือไม่?เพื่อปลดปล่อยเราให้
พ้นจากความผิดบาปของเราพระเจ้าจึงประทานพระบุตรของพระองค์เพียงครั้งเดียวเพื่อให้รับบัพติสมาทรงถูกตรึงบนไม้กางเขนและทรงฟื้นคืนพระชนม์เพื่อความผิดบาปของเราทั้งหมดเพียงครั้งเดียว เพื่อว่าพระองค์อาจจะช่วยเราให้รอดได้โดยสมบูรณ์เพียงครั้งเดียวได้ทั้งหมด
พระเจ้าของเราคือพระเจ้าผู้ชอบธรรมพระเจ้าทรงวางแผนการอภัยต่อความผิดบาปของเราภายในความชอบธรรมของพระองค์พระเจ้าไม่ได้ทรงขจัดความผิดบาปของเราเพียงเพราะเราอธิษฐานเพื่อการอภัยโทษของพระองค์ทุกๆครั้งที่เรากระทำบาปแต่พระองค์ทรงขจัดความผิดบาปของเขาทั้งหมดที่ได้รับการไถ่บาปเพียงครั้งเดียวโดยการเชื่อในความชอบธรรมของพระองค์เพียงครั้ง
เดียวและเพื่อตลอดไป
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับบาปของทุกวันนี้ที่เรากระทำหลังจากนั้น?สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับเรา
เคารพต่อพระเจ้าในความชอบธรรมของพระองค์ด้วยความขอบคุณและมอบพระสิริทั้งหมดให้แก่พระองค์เท่านั้นจากมุมมองของพระเจ้าพระเยซูทรงรับเอาความผิดบาปทั้งหมดของโลกไว้ที่พระ
องค์เองเพียงครั้งเดียวด้วยการรับบัพติสมาของพระองค์ ทรงหลั่งพระโลหิตบนไม้กางเขนและทรง ถูกพิพากษาแทนเรา และทรงรับเอาความผิดบาปของเราทั้งหมดไว้เพียงครั้งเดียว เพื่อการช่วย ให้รอดอันสมบูรณ์ของเราความรักแห่งความชอบธรรมของพระเจ้าเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยแผนการ
ของพระองค์ที่จะกำจัดความผิดบาปของโลกทั้งหมดเพียงครั้งเดียว
โรม 9:25 กล่าวว่า “ดังที่พระองค์ตรัสไว้ ในพระคัมภีร์ โฮเชยาว่า ‘เราจะเรียกเขาเหล่านั้น ว่าเป็นชนชาติของเราซึ่งเมื่อก่อนเขาหาได้เป็นชนชาติของเราไม่และจะเรียกเขาว่าเป็นที่รักซึ่งเมื่อก่อนเขาหาได้เป็นที่รักไม่’”ใช่แล้วพระเจ้าตรัสไว้ว่าพระองค์จะทรงเรียกพวกเขาว่าเป็นชนชาติ
ของพระองค์ซึ่งเมื่อก่อนพวกเขาไม่ใช่ชนชาติของพระองค์เพราะความชอบธรรมของพระเจ้าที่เราเชื่อนั้นไม่ใช่ทฤษฎีบทหนึ่งแต่เป็นความจริงแล้วเราได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากความผิดบาป
ของเราทั้งหมดโดยการเชื่อในความชอบธรรมของพระองค์ เพราะนี่คือความจริง ผู้ที่ไม่สนใจต่อ ความชอบธรรมของพระองค์จะถูกรังเกียจและถูกพิพากษาเหมือนเอซาวไม่มีผู้ใดสามารถพูดโอ้
อวดถึงความชอบธรรมของเขาหรือเธอต่อพระพักตร์พระเจ้าได้
เพื่อปลดปล่อยเราให้พ้นจากความผิดบาปของเราทั้งหมดพระเจ้าทรงช่วยเราให้รอดด้วย
ความชอบธรรมของพระองค์ ถ้าเช่นนั้นแล้ว เราจะไม่ขอบคุณและสรรเสริญพระองค์ได้เช่นไร? เราช่วยไม่ได้แต่ประกาศข่าวประเสริฐเรื่องความชอบธรรมของพระเจ้าได้ด้วยความขอบคุณและ
ความศรัทธา