(อพยพ 28:1-14)
“จงนำอาโรนพี่ชายของเจ้ากับบุตรชายของเขาแยกออกมาจากหมู่ชนชาติอิสราเอลให้มาอยู่ใกล้เจ้า เพื่อจะให้ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต คือทั้งอาโรนกับบุตรชายของอาโรน คือนาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ กับอิธามาร์แล้วให้ทำเครื่องยศบริสุทธิ์สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าให้สมเกียรติ และงดงาม ให้กล่าวแก่คนทั้งปวงผู้เฉลียวฉลาดซึ่งเราได้บันดาลให้เขามีจิตใจอันประกอบด้วยสติปัญญานั้น ให้เขาทำเครื่องยศสำหรับสถาปนาอาโรนให้ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต ให้เขาทำเครื่องยศดังต่อไปนี้คือทับทรวง เสื้อเอโฟด เสื้อคลุม เสื้อตาสมุก ผ้ามาลาและรัดประคด และให้เขาทำเครื่องยศบริสุทธิ์สำหรับอาโรนพี่ชายของเจ้าและบุตรชายของเขา เพื่อจะให้ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต ให้เขาเหล่านั้นรับเอาทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด ให้เขาทำเอโฟดด้วยทองคำ ด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด ตัดด้วยฝีมือช่างออกแบบ แถบที่ผูกบ่าของเอโฟดนั้น ให้ติดกับริมตอนบนทั้งสองชิ้น เพื่อจะติดเป็นอันเดียวกัน รัดประคดทออย่างประณีต สำหรับคาดทับเอโฟด ให้ทำด้วยฝีมืออย่างเดียวกัน และใช้วัตถุอย่างเดียวกับเอโฟด คือทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด แล้วให้ใช้พลอยสีน้ำข้าวสองแผ่น สำหรับจารึกชื่อบุตรของอิสราเอลไว้ ที่พลอยแผ่นหนึ่งให้จารึกชื่อหกชื่อ และแผ่นที่สองก็ให้จารึกชื่อไว้อีกหกชื่อที่เหลืออยู่ตามกำเนิด ให้ช่างแกะจารึกชื่อเหล่าบุตรอิสราเอลไว้ที่พลอยทั้งสองแผ่นนั้น เช่นอย่างแกะตราแล้วฝังไว้บนกระเปาะทองคำซึ่งมีลวดลายละเอียด พลอยทั้งสองแผ่นนั้นให้ติดไว้กับเอโฟดบนบ่าทั้งสองข้าง พลอยนั้นจะเป็นที่ระลึกถึงบรรดาบุตรแห่งอิสราเอล และอาโรนจะแบกชื่อเขาทั้งหลายไว้บนบ่าทั้งสองเฉพาะพระพักตร์พระเยโฮวาห์เป็นที่ระลึก เจ้าจงทำกระเปาะทองคำมีลวดลายละเอียด กับทำสร้อยสองสายด้วยทองคำบริสุทธิ์ เป็นสร้อยถักเกลียวแล้วติดไว้ที่กระเปาะนั้น”
ตอนนี้เรามาให้ความสนใจกับวัสดุต่างๆที่ใช้ทำเครื่องยศของมหาปุโรหิตกัน เอโฟสเป็นเป็นของชิ้นที่เป็นพิเศษกับเครื่องยศที่มหาปุโรหิตสวม เอโฟดนี้ทอกด้วยด้ายทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด เครื่องยศที่บริสุทธิ์ของมหาปุโรหิตนี้ทำจากช่างฝีมือดีที่ได้ตัดด้วย ด้ายทั้งห้าสีฝีมือช่างออกแบบ
ด้ายสีทองคำที่กล่าวถึงในตรงนี้ในพระคัมภีร์ของความเชื่อแท้จริง ด้ายสีฟ้าสำหรับเครื่องยศของมหาปุโรหิตหมายถึงบัติศมาที่พระเยซู คริสต์ ทรงได้รับจากยปห์นผู้ให้รับบัพติศมาเพื่อที่จะรับเอาบาปของมนุษยชาติไป ( มัทธิว 3:15 ) ด้ายสีม่วงกล่าวถึงกษัตริย์ของกษัตริย์ และด้ายสีแดงเข้มกล่าวถึงระบบการสังเวยบูชาที่พระเยซู คริสต์ทรงทำเมื่อพระองค์ทรงรับการปรับโทษบาปของมนุษยชาติ ด้ายสีขาวที่ใช้สำหรับเครื่องยศของมหาปุโรหิต แสดงถึงความชอบธรรมของพระเยซูที่ได้ลบบาปของทุกคนออกไปโดยด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม
ในบรรดาหน้าที่ของมหาปุโรหิตนั้น สิ่งสำหคัญที่สุดก็คือหน้าที่ของการถวายการสังเวยบูชาต่อพระเจ้า ด้วยการทำหน้าที่ของการสังเวยบูชานี้ต่อพระเจ้าตามระบบการสเงัวยบูชา มหาปุโรหิต ไม่เพียงแต่ปรนนิบัติพระเจ้าเพียงเท่านั้น แต่สิ่งนี้หมายความถึงได้ช่วยประชาชนชาวอิสราเอลให้พ้นจากบาปของพวกเขาด้วยเช่นกัน เราจะต้องจดจำว่าหน้าที่แรกสุดและสำคัญที่สุด ของหน้าที่ทั้งหมดของมหาปุโรหิตคือการถวายเพื่อปรนนิบัติและนมัสการพระเจ้านั่นเอง
เพื่อพิสูจน์จุดนี้ ลองให้ผมกล่าวถึงเหตุการณ์ที่กล่าวใน อพยพ 32 เมื่อโมเสสไปที่ภูเขาไซนายเพื่อรับพระบัญญัติสิบประการ ผู้คนชาวอิสราเองได้เห็นเขาลงมาจากบนภูเขาช้าไปจึงกล่าวแก่อาโรนว่า “ ลุกขึ้น ขอท่านสร้างพระให้แก่พวกข้าพเจ้า ซึ่งจะนำพวกข้าพเจ้าไป ด้วยว่าโมเสสคนนี้ที่ได้นำข้าพเจ้าออกมาจากประเทศอียิปต์เป็นอะไรไปเสียแล้ว ข้าพเจ้าไม่ทราบ “ ( อพยพ 32:1 ) แล้วอาโรนก็เอากำไลทองคำ ต่างหู และแหวนทองคำและปั้นลูกวัวจากมันแล้วผู้คนก็กล่าวว่า “โอ อิสราเอล สิ่งเหล่านี้แหละเป็นพระของเจ้า ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ “ ( อพยพ 32:1 ) เมื่อได้เห็นเช่นนี้ อาโรนจึงสร้างแท่นบูชาต่อหน้าลูกวัวและประกาศในวันถัดไปให้เลี้ยงฉลองแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้า
เมื่อวันถัดไปมาถึง ผู้คนชาวอิสราเอลจึงถวายเครื่องเผาสังเวยบูชาและเครื่องศานติบูชา แล่วพวกเขาก็นั่งลง กินและดื่ม และลุกขึ้นไปเล่น สิ่งนี้เป็นบาปใหญ่ต่อพระพักตร์พระเจ้า การทำให้ผู้คนชาวอิสราเอลทรมาณจากการพิพากษาที่รุนแรงของพระเจ้า เราจะต้องจำเหตุการณ์นี้ไว้ มหาปุโรหิตอาโรนก็มีส่วนที่อ่อนแอต่อเขาเช่นกันอย่างแน่นอน แต่ด้วยเหตุนี้ยังคงต้องเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเจ้า ไม่ลืมว่าสำหรับเขาที่จะรับใช้พระเจ้านั้นหน้าที่สำคัญที่สุกคือเป็นมหาปุโรหิต แต่อาโรนไม่สามารถทำหน้าที่ของการเป็นมหาปุโรหิตของเขาได้อย่างสัตย์ซื่อ ในการทำหน้าที่ของมหาปุโรหิต เขาต้องถวายเครื่องเผาบูชาและนำเครื่องศาสนติบูชามาตามระบบการสังเวยบูชาที่พระเจ้าทรงตั้งขึ้น ไม่ว่าผู้คนจะเชื่อตามเขาหรือไม่
โดยสรุป มหาปุโรหิตอาโรนได้เพียงแต่รับใช้พระเจ้าเท่านั้น เช่นเดียวกันนี้ ศิษยาภิบาลในปัจจุบันนี้ทำงานเพื่อประชาชนบ่อยเกินไป ไม่ใช่งานเพื่อพระเจ้า มันเป็นความเศร้าอย่างสุดซึ้งที่ผมคิดว่าศิษยาภิบาลสมัยใหม่นี้ยอมรับ ความคิดผิดๆเช่นนั้นมาใช้ แต่ผมยังไม่เป็นกังวลเลยเพราะวิสุทธิชนที่ถูกต้องก็ยังจะหาเจอได้ในหมู่พวกเขาอยู่บ้าง เพื่อที่จะไถ่บ่ปให้ผู้คน ปุโรหิตจะต้องทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบในการถวายบูชาต่อพระเจ้่าอย่างถูกต้องตามระบบการสังเวยบูชา
เราควรจะให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อข้อความนี้ที่พระเจ้าทรงกล่าวแก่โมเสสว่า “จงนำอาโรนพี่ชายของเจ้ากับบุตรชายของเขาแยกออกมาจากหมู่ชนชาติอิสราเอลให้มาอยู่ใกล้เจ้า เพื่อจะให้ปรนนิบัติเราในตำแหน่งปุโรหิต คือทั้งอาโรนกับบุตรชายของอาโรน คือนาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ กับอิธามาร์ “ ( อพยพ 28:1 ) พระเจ้าทรงสวมอาโรนด้วยเครื่องยศของมหาปุโรหิตที่ได้ทำเป็นพิเศษเพื่อที่เขาจะรับใช้พระเจ้าก่อนและสำหคัญที่สุด ปุโรหิตทุกคนทำหน้าที่ในทุกวันนี้ไม่ควรจะลืมว่า เครื่องยศของมหาปุโรหิตได้ทำด้วยด้ายทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด
เพื่อทำหน้าที่ของมหาปุโรหิตให้สมบูรณ์
ในวันของการไถ่บาป เพื่อที่จะลบบาปของชาวอิสราเอลไปปีละครั้ง มหาปุโรหิตจะต้องผ่านบาปทั้งหมดของพวกเขาไปยังเครื่องสังเวยบูชาด้วยการวางมือของเขาลงบนหัวของมัน หลั่งเลือด และเทเลือดไปที่แท่นเผาเครื่องสังเวยบูชาและพรมมันที่นั่นแหละที่หน้าพระที่นั่งกรุณา เช่นเดียวกันนี้ พระเยซู ผู้เป็นมหาปุโรหิตแห่งสวรรค์ ได้เสด็จมายังโลกนี้ ทรงรับบัพติศมาที่พระองค์ทรงรับบาปของมนุษยชาติไว้ หลั่งโลหิตของพระองค์ และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายอีกครั้ง และจึงนำชัยชนะของความรอดมาสู่ผู้ที่เชื่อทั้งหลาย
ขณะที่ปรนนิบัติพระเจ้าดุจมหาปุโรหิต อาโรนต้องสวมเครื่องยศพิเศษที่เรียกว่า “ เอโฟด “ ที่ทำด้วยด้ายทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด ด้วยเครื่องยศของมหาปุโรหิตนี้ พระเจจ้าทรงสอนเราในวิธีที่เราจะต้องถวายเรื่องสงัเวยบูชาเพื่อที่จะได้รับการยกความ ผิดบาป เพื่อให้ตระหนักถึงความหมายที่แสดง อยู่ในด้ายทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มที่ใช้สำหรับทำเครื่องยศของมหาปุโรหิตนี้ เราจะต้องรู้จักการยกความผิดบาปที่สมบูรณ์โดยความ ชอบธรรมของพระเจ้าและความรักของพระองค์
พระเจ้าทรงแสดงให้เราเห็นผ่านด้ายทั้งห้าสีที่ใช้สำหรับทำเครื่องยศของมหาปุโรหิต ถึงการยกความผิดบาปอันเป็นนิรันดร์ที่พระองค์ทรงตั้งในพระเยซู คริสต์ แม้แต่ก่อนการสร้างโลกเสียอีก ( เอเฟซัส 1:4 ) ดังนั้น สำหรับเราที่จะทำหน้าที่ของปุโรหิตได้เป็นอย่างดี แรกสุดเราจะต้องเข้าใจความลับของการชำระบาปที่ยึดในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณไว้และเชื่อมัน นี่คือจัดหมายที่กำหนดไว้ในอำนาจของความรอดที่พระเจ้า พระบิดาทรงตั้งเอาไว้เพื่อเราในพระเยซู คริสต์
สำหรับมหาปุโรหิตจะทำหน้าที่ของมหาปุโรหิตได้ดีเขาจะต้องถวายการสังเวยบูชาต่อพระเจ้าอย่างถูกต้อง นั่นคือ สำหรับการยกความผิดบาปของบาปของประชาชนของเขา เขาต้องวางมือลงบนหัวของเครื่องสังเวยบูชา และผ่านบาปของพวกเขาไปสู่มันอย่างถูกต้องตามระบบการสังเวยบูชา ในวันของการไถ่บาปนั้น มหาปุโรหิตได้วางมืทอของเขาลงบนหัวของเครื่องสังเวยบูชาและปาดคอเพื่อหลั่งเลือดของมัน ด้วยการวางมือนี้ บาปประจำปีของชาวอิสราเอลได้ผ่านไปสู่เครื่องสังเวยบูชา และด้วยการหสั่งเลือดของมัน บาปทั้งหมดจึงได้ไถ่บาปไป แล้วเขาจึงพรมเลือดของมันและเผาเนื้อหนังของมันเพื่อทำการสังเวยบูชาให้สมบูรณ์ เขาจึงถวายเครื่องบูชาเพื่อการไถ่บาปให้กับประชาชนของเขา
เราจะต้องให้ความสนใจในจุดนี้ มหาปุโรหิตต้องสอนประชาชนของเขาว่าบาปของพวกเขาได้ผ่านไปสู่เครื่องสังเวยบูชสก่อนที่จะเผาด้วยไป และว่าบาปของพวกเขาได้สมบูรณ์ผ่านการวางมือและการหลั่งโลหิตของเครื่องบูชา สิ่งนี้เป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ของมหาปุโรหิตทุกคน มหาปุโรหิตเป็นผู้ที่จะต้องปกป้องความจริง อีกนัยหนึ่ง เขาต้องเป็นผู้ดูแล ที่สัตย์ซื่อของข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ แม้ว่ามหาปุโรหิตเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอเหมือนกับประชาชนชาวอิสราเอลโดยทั่วไป แต่ด้วยการเชื่อในความจริงที่แสดงในระบบการสังเวยบูชาและการถวายการสังเวยบูชาต่อพระเจ้าของพวกเขา เขาจึงสามารถทำให้คนของเขาได้รับการยกความผิดบาปได้ ในกิริยาเดียวกันนี้ ที่พระเยซู คริสต์ มหาปุโรหิตแห่งสวรรค์ทรงทำเพื่อเรา และรับการยกความผิดบาปของเรา เราจึงสามารถทำงานร่วมกับพระเจ้าได้
ระบบการสังเวยบูชานี้ที่ได้เปิดเผยในระบบพลับพลา เป็นปัญญาของความรอดที่มาจากพระเจ้าปัญญาของพระเจ้าที่ได้ช่วยเราให้รอดจากบาปนั้นได้ยึดในด้ายทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียดที่ใช้สำหรับเป็นเครื่องยศของมหาปุโรหิต เพราะมหาปุโรหิตได้ทำหน้าที่ของเขาได้สมบูรณ์ในหน้าที่ของพวกเขา เขาจะต้องสอนว่าวิธีเดียวที่เป็นไปได้ในการทำให้มนุษยชาติไม่มีบาปก็คือเข้าถึงระบบการสังเวยบูชาที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ เราตามที่เป็น ปุโรหิตหลวงของยุคปัจจุบันนี้ ( 1 เปรโต 2:9 ) จะต้องเป็นพยานต่อความจริงที่ว่าพระเยซูเสด็จมายังโลกนี้ ทรงรับเอาบาปของโลกนี้ไปครั้งเดียวและเพื่อทั้งหมดด้วยการรับบัพติศมา หลั่งโลหิตของพระองค์ และสิ้นพระชนม์ในที่ของเรา ทรงถูกฝัง และทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายเพื่อเรา
มนุษย์เราสามารถลบบาปออกไปด้วยตัวเองได้ไหม ? ศาสนาของโลกนี้ได้ทำให้บาปของผู้คนหายไปไหม ? บาปของเราหายไปนั้นเป็นไปได้ด้วยความจริงของความรอดที่ประกอบขึ้นโดยบัพติศมาของพระเยซูและโลหิตของพระองค์ ที่มหาปุโรหิตได้สอนเราเพียงเท่านั้น เราสามารถได้รับการยกความผิดบาปของเราได้ด้วยข่าวประเสริฐของความรอดที่กำหนดขึ้นโดยพระเจ้าเท่านั้น การลบบาปของมนุษยชาตินั้นเป็นสิ่งที่ทำได้โดยพระเยซู คริสต์ มหาปุโรหิตแห่งสวรรค์อันเป็นนิรันดร์เพียงเท่านั้น อีกนัยหนึ่ง เพราะว่าพระเยซู คริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้า เสด็จมายังโลกนี้ในเนื้อหนังของมนุษย์ และทรงรับเอาบาปทั้งหมดของเราไปด้วยการรับบัพติศมาจากยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา พระองค์ทรงหลั่งโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขนเพื่อชำระบาปชั่วร้ายทั้งหมดของผู้มีบาป เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงแบกรับเปาบาปทั้งหมดไว้โดยบัพติศมาของพระองค์ที่พระองค์ทรงแบกรับเอาบาปทั้งหมดของเราไปด้วยการถูกตรึง การหลั่งโลหิตของพระองค์ และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และพระองค์ทรงทำความรอดของมนุษยชาติให้สมบูรณ์จากบาปการกระทำอันอันชอบธรรมนี้ ( โรม 5:18 ) เราไม่สามารถรอดได้หากไม่ใช่สิ่งที่พระเยซูทรงทำเพื่อเรา มหาปุโรหิตแห่งสวรรค์นี้ ผู้ทรงทำให้เราเป็นบุตรของพระเจ้าบริสุทธิ์ดอย่างสมบูรณ์ด้วยการลบบาปทั้งหมดของเราออกไปโดยความจริงของข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ นั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพระเยซู คริสต์
มหาปุโรหิตทางจิตวิญญาณแห่งสวรรค์ทรงทราบถึงแผนการของความรอดของพระบิดาที่ได้พยากรณ์การยกความผอดบาปของเราเอาไว้ทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกล่าวว่า “เราคืออัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและเป็นอวสาน เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย “ ( วิวรณ์ 22:13 ) พระผู้เป็นเจ้าทรงทำความรอดของเราให้สมบูรณ์ตามคำสัญญาที่ทรงมีไว้ที่แสดงในระบบการสังเวยบูชาด้วยความรู้ที่สมบูรณ์ของพระองค์ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ พระองค์ทรงทำให้เป็นไปได้สำหรับเราที่จะไม่ต้องได้รับการปรับโทษและต้องพินาศไป เพราะบาปและความอ่อนแอของเรา สิ่งที่มหาปุโรหิตแห่งสวรรค์ทรงทำแก่เรานั่นคือ ทรงรับเอาบาปของมนุษยชาติไว้ด้วยการรับบัพติศมา และลบมันออกไปด้วยการหลั่งโลหิตของพระองค์ พระองค์ทรงทำความรอดของเราให้สม บูรณ์ปัญญาของพระเจ้าได้จัดเตรียมความรอดของมนุษยชาติทั้งหมดให้รอดจากบาปของพวกเขา มันสมบูรณ์โดยด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด พระเจ้า พระบิดา ทรงวางแผนการยกความผิดบาปอันเป็นนิรันดร์ของเราไว้ในพระเยซู คริสต์ ด้วยความจริงที่ซ่อนอยู่ในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และสำหรับผู้มีบาปทั้งหมดในความจริงนี้ พระองค์ทรงยอมให้ความรอดสมบูรณ์นี้เกิดขึ้น
สายรัดประคดของเอโฟดสำหรับมหาปุโรหิต
ในบรรดาเครื่องยศของมหาปุโรหิตนั้นมีสาดรัดประคดสำหรับเอโฟดอยู่ สายรัดนี้เป็นสายรัดประคดที่สวมโดยมหาปุโรหิต สำหรับเอโฟดของเขา ซึ่งทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียดเช่นกัน สายรัดนั้นมักจะ หมายถึง “ กำลัง “ อีกนัยหนึ่ง มันบอกเราว่าความเชื่อที่เชื่อในความรอดนั้นมาโดยด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด มีพลังเพื่อช่วยเราให้รอดจากบาปทั้งหมดของเรา มีเพียงข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่แสนวิเศษนี้เท่านั้นที่มีพลังของพระเจ้าที่ช่วยทุกคนผู้ที่เชื่อให้รอด ( โรม 1 : 16 ) และดังนั้น มัน จึงเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ ต่อผู้ที่เชื่อในข่าวประเสริฐเทียมอื่นใดๆนอกเหนือจากสิ่งที่แสดงตรงนี้ในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด
คนทั้งหลายที่มีข้อด้อยมากมายก็สามารถชำระบาปของพวกเขาออกไปได้อย่างสมบูรณ์เช่นกันด้วยการเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมาให้นี้เพราะบาปของโลกนี้ได้ผ่านไปสู่พระเยซู คริสต์ โดยความจริงของ การยกความผิดบาปที่สมบูรณ์โดยพระเจ้า ( มัทธิว 3 : 15-17 ; เลวีนิติ 16 : 1-22 ) ดังนั้น คนทั้งหลายที่เชื่อว่า งานอันชอบธรรมของพระเยซูที่แสดงในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มนี้ได้ช่วยพวกเขาให้รอดก็สามารถโล่งใจ ได้แม้ว่า กำลังใจของเนื้อหนังของพวกเขาจะอ่อนแอก็ตาม เมื่อเราอยู่ในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญ ญาณที่พระเยซู คริสต์ มหาปุโรหิตแห่งสวรรค์ประทานมาให้เราแล้ว สิ่งที่จะเป็นไปได้คือตัดเราออกจากความรักของพระเจ้าหรือ ? ความเชื่อของเราในความรอดของพระเจ้าได้สมบูรณ์โดยความเชื่อของเราที่เชื่อในความจริงที่เปิดเผยในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด
สำหรับปุโรหิตจะสามารถทำหน้าที่ปุโรหิตได้ พวกเขาก็ไม่สามารถทนกับข่าวประเสริฐเท็จที่ไม่เชื่อฟังระบบการสังเวยบูชาที่แสดงไว้อย่างชัดเจนในพลับพลาได้คนทั้งหลายผู้ที่ประกาศข่าวประเสริฐเทียมเช่นนั้นไม่ว่าพวกเขาจะนำคำสอนของตนไปอย่างชัดเจน เพียงใด มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรใครได้ เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นพยานต่อข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณของพระเจ้าที่แสดงในพลับพลาได้ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นเพียงคนต้มตุ๋นและผู้ที่ทำงานรับจ้าง เพียงเท่านั้น เมื่อมาถึงการเชื่อในพระเยซู คริสต์มหาปุโรหิตแห่งสวรรค์ เป็นผู้ช่วยให้รอดของเราเราก็จะต้องยอมรับระบบการสังเวยบูชาของการวางมือ และการหลั่งโลหิตที่แสดงไว้ในระบบพลับ พลาให้ได้ เราจะต้องตระหนักว่ามีข่าวประเสริฐเทียมมากมายในโลกนี้ เช่นกันนี้ ไม่ว่าคนประกาศจะเป็นใคร หากผู้ประกาศกำลังประ กาศข่าวประเสริฐของความจริงของน้ำและพระวิญญาณแล้ว เราจะต้องได้ฟังและยอมรับการสอนของเขาหรือเธอทั้งหมด
วัสดุทั้งห้าที่ใช้สำหรับเอโฟดและสายรัดของมันนั้นแสดงถึงความรอดแท้จริงของเรามันเป็นวัสดุที่แสดงถึงการสังเวยบูชาที่นำการยกความผิดบาปมาสู่ผู้มีบาปเมื่อมันมีการถวายไปตามระบบการสังเวยบูชาที่พระเจ้าประทานมาให้ในพันธสัญญาฉบับเก่า และสิ่งนี้ประกอบด้วยการวางมือ และการหลั่งโลหิตเป็นหลัก วัสดุต่างๆนี้ก็แสดงตัวเองออกมาในท้ายที่สุดในพันธสัญญาฉบับใหม่ด้วยการรับบัพติศมาของพระเยซูและการหลั่งโลหิตของพระองค์พระเยซูจึงทรงนำความรอดของการยกความผิดบาปมาให้แก่ผู้ที่เชื่อใครก็ตามที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญ ญาณอย่างหมดหัวใจก็จะได้รับการยกความผิดบาปและชีวิตนิรันดร์ ความจริงนี้ได้กล่าวถึงแก่ผู้ที่เกิดใหม่ทั้งหมดผู้ที่ได้รับการวางใจให้ทำหน้าที่ของมหาปุโรหิตในปัจจุบันนี้
มหาปุโรหิตทางโลกได้ผ่านบาปของปูคนของเขาไปด้วยการวางมือของเขาลงบนหัวของเครื่องสังเวยบูชาแล้วเขาก็ปาดคอของมัน และหลั่งเลือดของมัน พรมเลือดของมันที่พระที่นั่งกรุณา และจึงทำหน้าที่ของการเป็นมหปุโรหิตของเขาให้สมบูรณ์ในการปกป้องข่าวประเสริฐที่แสนวิเศษนี้ต่อพระพักตร์พระเจ้า แต่มหาปุโรหิตแห่งสวรรค์นั้นคือพระองค์ผู้รับบัพติศมาเพื่อรับเอาบาปของโลกนี้ไว้ที่ร่างกายของพระองค์ พระองค์ทรงลบบาปทั้งหมดของประชาชนของพระ องค์ออกไปทั้งหมดด้วยประทานร่างกายของพระองค์มา หลั่งโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขน และทรง ฟื้นขึ้นมาจากความตายอีกครั้ง ด้วยการทำเช่นนี้ พระองค์ทรงให้ ประชาชนของพระองค์ได้ลบบาปทั้งหมดของพวกเขาออกไปและนำอำนาจในขอบเขตของพระเจ้ามาเพื่อความสมบูรณ์ของมัน ทุกวันนี้ เมื่อสาวกของพระเยซูเผยแพร่ข่าวประเสริฐที่พระเยซู คริสต์ทรงลบบาปทั้งหมดของมนุษยชาติออกไปและที่พวกเขาจะสามารถทำหน้าที่ของปุโรหิตออกมาได้โดยสำเร็จ
หนึ่งในเหตุผลที่คริสตศาสนาในปัจจุบันนี้มีปัญหามากมายก็เพราะว่ามีผู้หลอกลวง ทางจิตวิญญาณมากมายในสังคมที่อ้างว่า ทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตของคนสำเร็จเป็นอย่างดีแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณก็ตาม วิธีที่จะเป็นปุโรหิตแท้จริงต่อพระพักตร์พระเจ้านั้น ก็คือการเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณมีเพียงผู้ที่มีความเชื่อนี้เท่านั้นที่สามารถถวายการสังเวยบูชาบาปที่ถูกต้องต่อพระเจ้าได้ และรักประชาชนคนอื่นอย่างแท้จริงคุณคิดว่าคริสตจักรของพระเจ้าคงอยู่เพื่ออะไร ? ผมกล่าวกับท่านได้ว่าคริสตจักรของ พระเจ้านั้นคงอยู่เพื่อเผยแพร่ข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณออกไปสู่ผู้มีบาปและนี่คือวิธีที่รับใช้พระเจ้าและรักทุกจิตวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นมาในพระฉายของพระองค์
ทุกคนในโลกนี้จะต้องรู้จักข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ
คริสเตียนทั่วโลกในปัจจุบันนี้จะต้องรู้จักข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก แต่ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกอย่างไรได้ แต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะทิ้งเสียสำหรับคนเหยียบย่ำ ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะปิดบังไว้ไม่ได้“ ( มัทธิว 5 : 13-14 ) เราผู้เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณเป็นความสว่างแท้จริงและเกลือทางจิตวิญญาณของโลกนี้คนทั้งหลายที่รู้จักและเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณเป็นปุโรหิตทางจิตวิญญาณผู้ที่นำผลประโยชน์มาสู่ผู้คนและทำให้พวกเขา สามารถได้รับการยกความผิดบาปของพวกเขาได้ แต่อีกนัยหนึ่ง ศิษยาภิบาลทั้งหลายผู้ที่อ้างว่า ทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตได้สมบูรณ์แม้ว่าพวกเขาไม่รู้จักข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณนี้นั้น ก็เป็นเพียงผู้ที่ทำงานรับจ้างเพียงเท่านั้น คนทั้งหลายที่ทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตของตนแต่เพียงรับจ้าง เท่านั้นอาจจะสามารถทำให้ผู้คนเป็นปุโรหิตแต่เพียงในนาม ได้แต่พวกเขาไม่สามารถชำระบาปที่พบในผู้ที่เชื่อตามพวกเขาได้
ปุโรหิตแท้จริงคือผู้ที่ได้รับการลบความผิดบาปไปแล้ว ผู้ที่ไม่มีบาปต่อพระพักตร์พระเจ้าด้วยการเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ ด้วยการประทานหน้าที่ของปุโรหิตให้พวกเขาและทำให้พวกเขาทำการสังเวยบูชาที่ถูกต้องได้ที่ทำให้สามารถชำระบาปของประชาชนของพระเจ้าที่พระองค์ทรงยอมให้ทุกคนได้ชำระบาปทั้งหมดของพวกเขาออกไปได้ผ่านปุโรหิตเช่น นั้นที่พระเจ้าทรงให้มนุษยชาติได้รู้จักงานของความรอดของพระองค์เชื่อมัน และจึงกลับไปสู่พระองค์และนำชีวิตที่ชอบธรรมไปปุโรหิตคือผู้ที่มีความรับผิดชอบและทำหน้าที่ในการทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความลับของด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดง เข้ม และเผยแพร่ความจริงนี้ไป ดังนั้น ปุโรหิตทางจิตวิญญาณนั้นมีความสำคัญอย่างที่สุด เหมือนกับข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญ ญาณเอง
พระเจ้าประทานพระวจนะของข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณมาให้เราเพื่อที่เราจะทำหน้าที่ของปุโรหิตทางจิตวิญญาณได้อย่างเต็มพลังเราจะต้องขอบพระคุณพระองค์ที่ประทานความเชื่อนี้ ( ด้ายทองคำ ) ที่เชื่อในข่าวประเสริฐที่แสนวิเศษ ที่แสดงในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด มาให้เรา เมื่อเราศึกษาเครื่องยศที่มหาปุโรหิตสวม เราก็พบ วิธีที่มนุษยชาติได้รับการยกความผิดบาปได้สมบูรณ์ตามการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในเครื่องยศของมหาปุโรหิตข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณนั้น จึงใสเหมือนกับคริสตัลพระเจ้าทรงช่วยมนุษยชาติให้รอดจากบาปของโลกนี้ไม่ใช่โดยข่าวประเสริฐเทียม แต่พระเจ้าทรงวางแผนความรอดของเราไว้ในพระเยซู คริสต์ ก่อนการสร้างโลกเสียอีกและพระองค์ทรงทำแผนการนี้สมบูรณ์อย่างถูกต้องผ่านบัพติศมาและโลหิตที่ทรงหลั่งของพระเยซู คริสต์
ในหมู่เครื่องยศของมหาปุโรหิตนั้นมีเสื้อคลุมและกางเกงผ้าลินินเช่นกันที่ทำด้วยช่างฝีมือ เราก็สวมชั้นในเช่นกัน แต่เครื่องยศของมหาปุโรหิตเหล่านี้แตกต่างจากชั้นในที่เราสวมใส่เสื้อคลุมของมหาปุโรหิตเป็นเครื่อแงแต่งกายที่ยาวลงมาคลุมเข่าเพราะมันทอด้วยผ้าป่านเนื้อดีอากาศจึงระบายได้อย่างสะดวก เมื่อปุโรหิตเผาเครื่องสังเวยบูชาพวกเขาก็ต้องนำเครื่องสังเวยบูชาเป็นชิ้นๆไปที่แท่นเผาสังเวยบูชาเพื่อเผามัน แท่นนี้ได้กำหนดไว้อย่างสัมพันธ์กัน และดังนั้น ส่วนล่างของร่างกายของมหาปุโรหิตจึงสามารถโผล่ออกมาได้เมื่อพวกเขามาใกล้แท่นเผาเครื่องบูชา ดังนั้น พระเจ้าทรงสั่งให้โมเสสทำเสื้อคลุมและกางเกงผ้าลินินเพื่อสวมปกปิดส่วนล่างของมหาปุโรหิตโดยตลอดที่อาจจะทำให้เกิดบาปชั่วร้าย และตายได้
เครื่องยศของมหาปุโรหิตมันช่างยอดเยี่ยม อะไรเช่นนี้ ? ทับทรวงได้สวมที่หน้าอกของเขาที่ระยิบระยับกับเพชรพลอยล้ำค่าทั้งสิบสองเม็ด และสายพาดบ่าก็มีเพชรพลอยเช่นกัน ทับทรวงได้สวมติดกับสายพาดบ่าด้วยโซ่ที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์เหมือนกับสายที่ถักไว้และมันก็ผูกติดกับสายรัดเอโฟดเพื่อที่มันจะไม่หลุดจากเอโฟดดังนั้นเมื่อมหาปุโรหิตเดิน ด้ายที่ถักด้วยทองคำบริสุทธิ์นี้ก็แกว่งไปมาและประกายแวววาว ยิ่งไปกว่านั้นเพชรพลอยทั้งสิบสองเม็ดบน ทับทรวงของการพิพากษาก็แวววับเช่นกันเพชรพลอยเม็ดใหญ่สองเม็ดได้ติดไว้บนสายพาดบ่า ทั้งสองก็ ประกายแวววับเช่นกัน และที่หน้าผากก็มีประกายทองคำที่ทำด้วยแผ่นทองคำที่แขวนติดกับมาลาที่ทำด้วยผ้าป่านเนื้อละเอียดเช่นกัน
มีทองคำมากเพียงใดในพลับพลา ? ไม่กรอบทั้งหมดของ มันก็ยังหุ้มด้วยทองคำ และพระที่นั่งกรุณา คันประทีป โต๊ะสำหรับวางขนมปังและของเครื่องใช้มากมายของท่บริสุทธิ์ก็ทำด้วยทองคำ พลับพลานั้นมีความสำคัญโดยง่าย เช่นเดียวกันนี้ เมื่อเราเข้าไปสู่ขอบเขตของพระเยซู คริสต์ เราก็สามารถตระหนักได้ว่าขอบเขตนี้มันแจ่มจรัสเพียงใด เมื่อมองดูจากภายนอก พลับพลาก็อาจจะไม่ดูเหมือนว่าน่าประทับใจนัก แต่ใครก็ตามที่รู้เกี่ยวกับจำนวณของทองคำ นี้มันมากกว่าหนึ่งตันเลยทองคำทั้งหมดที่ใช้สำหรับพลับพลานั้นมี ยี่สิบเก้าตะลันต์ และเจ็ดร้อยสามสิบ เชเขล ( อพยพ 38 : 24 ) และเมื่อเราคำณวณสิ่งนี้ในการวัดปัจจุบันนี้มันก็จะมีมาก กว่าหนึ่งตันหรือ โดยประมาณเพราะหนึ่งตะลันต์หรือคิคคา ( = 3000 เชเขล ) หนักประมาณ 42 กิโลกรัม
คุณได้เตรียมเครื่องยศของความเชื่อที่ทำด้วยทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียดไหม ? ด้ายทองคำในที่นี้หมายความถึงความเชื่อด้ายสีฟ้าหมายถึงบัพติศมาที่พระเยซูทรงได้รับด้ายสีม่วงหมายถึงความเป็นพระเจ้าของพระเยซูที่ทรงเป็นพระเจ้าด้ายสีแดงเข้มบอกเราว่าเพราะพระเยซู คริสต์ทรงรับเอาบาปทั้งหมดของเราไว้โดยบัพติศมาของพระองค์นั้น พระองค์ต้องหลั่งโลหิตอันล้ำค้าขอพระองค์บนไม้กางเขน และผ้าป่านเนื้อละเอียดได้กล่าวถึงพระวจนะของพระเจ้าที่เปิดเผยความชอบธรรมของพระเจ้า เช่นเดียวกันนี้ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มได้ใช้สำหรับประตูพลับพลา และเครื่องยศของปุโรหิตได้บอกเราว่า พระเจ้าทรงลบบาปทั้ง หมดของเราออกไปแล้ว
เมื่อเรามาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าด้วยความเชื่อในความจริงนี้เราก็สามารถได้รับการยกความผิดบาปของเราทั้งหมดได้
เมื่อเรามาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าเราจะต้องมีความเชื่อที่เชื่อในความจริงของความรอดที่ยึดในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียดที่แสดงในเครื่องยศของมหาปุโรหิตเช่นเดียวกับประตูพลับพลาเมื่อมหาปุโรหิตถวายบูชาในวันของการไถ่บาปเขาได้วางมือของเขาลงบนหัวของเครื่องสังเวยบูชา และจากนั้นก็ปากคอดของมันเพื่อหลั่งเอาเลือด ด้วยการวางมือนี้ที่บาปของผู้คนของเขาได้ผ่านไปสู่สัตวบูชา และด้วยการหลั่งเลือดนี้ที่ได้ลบบาปทั้งหมดออกไปใครก็ตามที่ไม่มีความเชื่อนี้ไม่สามารถไปหาพระเจ้าได้การพยายามสังเวยบูชาต่อพระเจ้าโดยไม่มีความเชื่อนี้ไร้สาระอย่างสิ้นเชิง ระบบการสังเวยบูชาและวัสดุของพลับพลานั้นมีความสัมพันธ์ต่อความเชื่อที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณโดยความเชื่อนี้ในพระวจนะที่กล่าวโดยพระเจ้าที่ทำให้มหาปุโรหิต สามารถมาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าได้และทำหน้าที่ของปุโรหิตได้อย่างสมบูรณ์เพื่อประชาชนของเขาด้วยการถวายบูชาที่ลบบาปทั้งหมดของพวกเขาออกไป
แล้วความเชื่อของเราล่ะ ? ในยุคปัจจุบันนี้ ท่านและผมผู้ที่รู้จักและเชื่อในความจริงนี้และมีชีวิตอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าโดยความเชื่อเป็นปุโรหิตหลวงของพระองค์ ( 1 เปรโต 2 : 9 ) ความเชื่อของท่านนั้นเหมือนกับความเชื่อที่เชื่อ ในระบบการสังเวยบูชาที่เปิดเผยในพันธสัญญาฉบับเก่าไหม ? ความเชื่อแท้จริงจะต้องเป็นความเชื่อที่เชื่อในข่าวประเสริฐแสนวิเศษที่กล่าวถึงในพันธสัญญาฉบับเก่าและฉลัลใหม่รูปแบบภายนอกของความเชื่อสามารถแตกต่างกันได้แต่เนื้อหาของความเชื่อแท้จริงจะต้องเหมือนกันมหาปุโรหิตผู้ที่ได้รับการยอมรับจากพระเจ้าเป็นผู้ที่ถวายบูชาตามระบบการสังเวยบูชา
เมื่อพระคัมภีร์ไบเบิ้ลกล่วว่า เอโฟดตัดด้วย “ ฝีมือช่างออกแบบ “ มันหมายความว่ามันได้ปักตัดอย่างละเอียดละออ มหาปุโรหิตจะต้องสวมเอโฟดที่ทอทั้งหมดด้วยด้ายทั้งห้าเป็นพิเศษโดยไม่ขาดสักชนิดเดียว เช่นเดียวกันนี้ โดยความเชื่อที่เชื่อ อย่างแท้จริงในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อ ละเอียดที่ทำให้ผู้ที่เป็นปุโรหิตสามารถสวมในความบริสุทธิ์ได้ก่อน และจากนั้นก็มาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าเท่านั้น และถวาย บูชาของการยกความผิดบาปของผู้อื่น
แล้วความเชื่อของท่านล่ะ ? ท่านรู้จักและเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณอย่างถูกต้องไหมความเชื่อของปุโรหิตของพันธสัญญาฉบับเก่าที่เชื่อในความจริงที่แสดงตัวเองในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียดนั้นเป็นเหมือนกับความเชื่อที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณในยุคของพันธสัญญาฉบับใหม่ความเชื่อนี้เป็นความจริงของความรอดอย่างแน่นอน ที่ไม่มีใครสามารถปรับเปลี่ยนได้ หากไม่มีความเชื่อนี้แล้ว ก็ไม่มีใครสามารถมาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าได้หรือไม่สามารถเผยแพร่ข่าวประเสริฐบริสุทธิ์ของพระองค์ได้เลยสิ่งนี้หมายความว่าคนทั้งหลายที่ไม่ได้รับการยกความผิดบาปของพวกเขาโดยข่าวประเสริฐที่แสนวิเศษนี้ไม่สามารถทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตของเขาได้อย่างสมบูรณ์เพื่อผู้อื่นได้
เราได้ฟังข่าวจากหลายประเทศผ่านโฮมเพจของเรา เราได้ฟังข่าวจากทั่วทุกมุมโลก จากเปรู ไปจนถึงจีน และจากอูกันด้าไปจนถึงฮอลแลนด์ที่ประชาชนกำลังได้รับการยกความผิดบาปผ่านหนังสือคริสเตียนฟรีของเราผ่านหนังสือนี้ ที่ได้ยึดข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณไว้ประชาชนที่เรายังไม่ได้พบก็กำลังได้รับการยกความผิดบาปของพวกเขาหากผู้คนแต่ละประเทศได้รับการยกความผิดบาปและพวกเขาเปลี่ยนเปลี่ยน มาเผยแพร่ข่าวประเสริฐโดยเป็นผู้ร่วมงานของเรามันจะเป็นงานที่แสนวิเศษสักเพียงใดที่จะสำเร็จกันหนอ ? หากหนังสือ คริสเตียนฟรีของเราสามารถเดินทางไปได้ในทุกประเทศ มันก็คงจะไม่ยุ่งยากสำหรับผู้คนทั่วโลกที่จะได้เกิดใหม่อย่างแท้จริงจิตวิญญาณมากมายนับไม่ถ้วนทั่วโลก กำลังได้รับการยกความผิดบาปด้วยการอ่านหนังสือของเราดังนั้นเราจะต้องทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตอย่างสัตย์ซื่อต่อไปและเผยแพร่ความจริงของความรอดนี้ออกไปที่ได้แสดงในระบบของพลับพลาโดยความเชื่อ
ถึงผู้ที่เชื่อทั้งหลายเพียงเมื่อท่านไม่มีบาปและบริสุทธิ์ท่านก็สามารถเผยแพร่ข่าวประเสริฐแท้จริงไปสู่ผู้คนทั่วโลกได้สำหรับเราที่จะเป็นมหาปุโรหิตเราจะต้องมีและเผยแพร่ความเชื่อที่เชื่อในความจริงทั้งสี่ที่แสดงไว้ในพลับพลาพระผู้เป็นเจ้าของเราผู้เป็นพระเจ้าแท้จริง ทรงลบบาปทั้ง หมดของเราออกไปโดยด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม ด้วยการเสด็จมายังโลกนี้ การรับบัพติศมา และการหลั่งโลหิตของพระองค์ที่พระผู้เป็นเจ้าของเรา ทรงชำระบาปทั้งหมดของเราออกไปและด้วยการรับเอาการปรับโทษทั้งหมดเหล่านี้ในที่ของเราพระองค์จึงทรงช่วยคนทั้งหลายที่เชื่อให้รอดจากบาปทั้งหมดของพวกเขาใครก็ตามที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณได้ทำให้เราเป็นคนชอบธรรและไม่มีบาปที่สามารถสวมเครื่องยศบริสุทธิ์เหล่านี้ได้เมื่อเราสวมเครื่องยศเหล่านี้ ก็มาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า อธิษฐานต่อพระองค์ ร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และรับใช้พระองค์ จากนั้นเราก็สามารถทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตของเราได้อย่างสมบูรณ์ด้วยการเผยแพร่ข่าวประเสริฐนี้
ท่านได้รับการยกความผิดบาปของท่าน ด้วยการเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญ ญาณนี้แล้วหรือยัง ? ความเชื่อเหมือนกับด้ายทองคำนั้นอยู่ในหัวใจของท่านไหม ? มันไม่พอสำหรับเราที่จะรู้จักข่าวประเสริฐของความจริงนี้เพื่อตัวเราเอง แต่เราจะต้องเชื่อมันอย่างหมดหัว ใจด้วยเช่นกัน เราจะต้องไม่ละทิ้งความจริงใดๆที่เราพบในด้ายทั้งสี่ที่ใช้ทำเครื่องยศของมหาปุโรหิตและระตูพลับพลาเลยทุกๆอันจะต้องพบได้ในความเชื่อของเรา ใครคือผู้ที่เชื่อจอมปลอมในปัจจุบันนี้ ? เมื่อบางสิ่งดูเหมือนกันแต่เมื่อตรวจสอบรายละเอียดของมัน มันแตกต่างกัน แล้วเราเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นของปลอม มันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับข่าวประเสริฐจอมปลอมหรือ ? คนทั้งหลาย ที่ไม่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ แต่กลับเชื่อข่าวประเสริฐเทียมอื่นแทนนั้นเป็นเพียงประชาชนที่มีความเชื่อ จอมปลอม เพียงเท่านั้น
ปกป้องความเชื่อของท่านและต่อสู้กับกองกำลังดุจเป็นทหารทางจิตวิญญาณ
เคยมีกึ่งนักข่าวที่แกล้งเป็นนักข่าวจริงๆและหลอกลวงเงินของประชาชน นักข่าวเทียม นี้ได้ปลอมแปลงหลังสือรับรอง และแกล้งเป็นนักข่าวได้ค่อยข้างดีทีเดียว ผู้คนมากมายถูกพวกเขาหลอก ทุกวันนี้ มีความจริงที่คนมากมาย ผู้ที่กำลังเผยแพร่ข่าวประเสริฐเท็จอื่นๆที่อาจจะคล้ายกับ ข่าวประเสริฐแสนวิเศษนี้แต่ความจริงก็คือว่าในความเป็นจริงพวกเขาแตกต่างจากข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ ดังนั้นก่อนที่จะเชื่อในข่าวประเสริฐใดเราควรจะตรวจสอบมันอย่างใกล้ ชิดด้วยการให้ความสนใจเป็นพิเศษให้เห็นว่ามันได้ประกอบไปด้วยด้ายสีฟ้า สีม่วงและสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียดหรือไม่ และมีใครละทิ้งมันไปสักอย่างหรือไม่พระเจ้าทรงสั่งให้โมเสสทำเครื่องยศของมหาปุโรหิตด้วยการทอมันด้วยช่างฝีมือดีโดยไม่ลืมด้ายสักสีหนึ่งเลยสิ่งนี้หมายความว่าปุโรหิตในปัจจุบันนี้ไม่ควรจะทิ้งอะไรจากข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณเลยเมื่อมาถึงความเชื่อของพวกเขาหากเราไม่เชื่อว่าพระเจ้าทรงทำความรอดของเราให้สมบูรณ์ด้วยด้ายทั้งสี่สีนี้ได้แก่ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด เราก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากพระเจ้าได้
เราจะสามารถแยกแยะได้อย่างไรว่าความเชื่อของผู้นั้นมันปลอม หรือไม่ ? เมื่อเราดูที่สีของเครื่องยศที่มหาปุโรหิตสวม เราก็สามารถตระหนักได้ว่าในวันนี้มีเพียงความเชื่อของผู้ที่เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณเท่านั้นที่เป็นทั้งหมด หากใครก็ตามเชื่อในข่าวประเสริฐแท้ จริงนี้เหมือนคนเหล่านีัแล้ว ท่านก็สามารถพิจารณาได้ว่าคนผู้นี้เป็นผู้ที่ได้ลบบาปของพวกเขาออกไปทั้งหมดแล้ว มีประชาชนที่คิดว่าความเชื่ของพวกเขานั้นเป็นทั้งหมด แล้วแม้ว่าพวกเขาไม่เชื่อในความจริงของด้ายสีฟ้า บัพติศมาของพระเยซู และเชื่อเพียงโลหิตของไม้กางเขนเพียงเท่านั้น เช่นนั้นไม่ใช่ผู้ทีึ่เชื่อในข่าวประเสริฐที่แสนสมบูรณ์ เพราะประชาชนเหล่านี้ไม่รู้จักข่าวประเสริฐแท้จริงต่อพระพักตร์พระเจ้า พวกเขาจึงไม่สามารถประกาศการยกความผิดบาปทางจิตวิญญาณได้
ถึงผู้ที่เชื่อทั้งหลาย ท่านจะต้องสามารถแยกแยะความเชื่อของผู้ที่เชื่อในข่าวประเสริฐเทียมจากผู้ที่เชื่อในข่าวประเสริฐแท้จริง มีศิษยาภิบาลมากมายในโลกนี้ผู้ที่เชื่อในข่าวประเสริฐเท็จนั้น ในพันธสัญญาฉบับเก่านั้น เครื่องยศของมหาปุโรหิตได้ทำโดยด้ายทั้งห้าสี และด้วยการมีความเชื่อนี้ที่เราได้รับการยกความผิดบาปของเรา นี่คือดหตุผลที่เรากำลังจ่ายค่าจ้างทางกองกำลังทางจิตวิญญาณของเราต่อซาตาน
อัครสาวกเปาโล กำหนดประเด็นในหนังสือเอเฟซัส ลองกลับไปดู เอเฟซัส 6 : 10-18 กัน “พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า สุดท้ายนี้ขอท่านจงมีกำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในฤทธิ์เดชอันมหันต์ของพระองค์จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้ เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือดแต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้นและเมื่อเสร็จแล้วจะยืนมั่นได้เหตุฉะนั้นท่านจงยืนมั่น เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอกและเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของผู้ชั่วร้ายนั้นเสีย จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะและจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือพระวจนะของพระเจ้า จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่างและจงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อวิสุทธิชนทุกคน “
อัครสาวกเปาโล กำลังบอกเราให้ “กำลังขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในฤทธิ์เดชอันมหันต์ของพระองค์ “ และให้ “จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า “ เพื่อที่เราจะ” จะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้ “ อะไรคือยุทธภัณฑ์ของพระเจ้า ? มันเป็นพระวจนะของพระเจ้า เปาโลกำลังบอกเราให้ต่อสู้กับความเชื่อเทียมด้วยการเชื่อในพระวจนะของพระเจ้า ด้วยการสวมมัน และยึดมันไว้ นี่คือเหตุผลที่เขากล่าวว่า “เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือดแต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ “ เขาแนะนำให้เราต่อสู้กับผู้ปกครองของยุคนี้ ต่อผู้ที่อยู่อยู่ฝ่ายเดียวกับโลกนี้ และต่อจิตวิญญาณชั่วร้ายของพญามาร
เปาโลกำลังบอกเราว่า “เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้นและเมื่อเสร็จแล้วจะยืนมั่นได้เหตุฉะนั้นท่านจงยืนมั่น เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอกและเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของผู้ชั่วร้ายนั้นเสีย จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะและจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือพระวจนะของพระเจ้า “ เปาโลบอกเราในสิ่งนี้เพื่อที่เราจะได้ทำสิ่งเหล่านี้ที่อาจจะยืนต่อพระพักตร์พระเจ้า เพราะเราเชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณต่อพระพักตร์พระเจ้า เราจึงได้รับการยกความผิดบาปและยืนต่อพระพักตร์พระเจ้าเพื่อมีความสุขในชีวิตนิรันดร์พร้อมกับพระองค์
เราทุกคนมีความอ่อนแอในเนื้อหนัง ดังนั้นเราจะต้องสวมผ้าคาดเอวของความเชื่อ เปาโลกำลังบอกเราว่าเราจะต้องเชื่อในข่าวประเสริฐนี้ด้วยหัวใจของเราด้วยการบอกเราให้สวมทับทรวงของความชอบธรรม ตามที่มหาปุโรหิตได้สวมเพชรพลอย ทั้งสิบสองเม็ดไว้บนทับทรวงเหนือหน้าอกนั้นและจารึกนามของสิบสองตระกูลของอิสราเอลไว้ที่หินแต่ละเม็ดนั้นเขากำลังกล่าวว่าเราควรจะยอมรับประชาชนชนทุกคนไว้ในหัวใจของเราและนำพวกเขาไปสู่พระคริสต์ การที่มหาปุโรหิตสวมเพชรพลอยทั้งสิบสองเม็ดนี้ที่ได้ติด ไว้บนทับทรวงและเอามันไปบนหน้าอกของเขานั้นหมายความว่าเขารับเอาประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมดไว้ในหัวใจของเขานั่นเอง
ตามที่มหาปุโรหิตเปาโลกล่าวว่า “จงยืนมั่น เอาความจริงคาดเอว “ เราจะต้องมีความเชื่ออย่างชัดเจนและแน่นอน ที่เชื่อในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด เมื่อเราไม่กลัวความอ่อนแอของเราแต่ยึดความเชื่อของเราในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มไว้ในหัวใจของเราแล้ว หัวใจของเราก็จะมีพลัง โดยความเชื่อนี้ที่เราสามารถยืนอยู่ได้อย่างมั่นคงบนความเชื่อที่ไม่มีสั่นคลอนของเรา ดังนั้น เราะจ้ตองสวมทับทรวงของความชอบธรรมและเชื่อมันในใจของเราและในหัวใจของเรา มันไม่พอที่เราจะเพียงแต่รู้จักข่าวประเสริฐแท้จริงนี้ในหัวใจของเรา แต่เราจะต้องเชื่อมันในหัวใจของเราเช่นกัน
แล้วเราต้องสวมรองเท้าของการเผยแพร่ข่าวประเสริฐไป ด้วยการเตรียมของข่าวประเสริฐของสันติสุข ด้วยข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณนี้ที่พระเจ้าประทานสันติสุขมาให้เรา พระเจ้าทรงบอกเราให้เชื่อในข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณนี้ที่นำสันติมาให้เราและนำชีวิตของเราไปด้วยการรับใช้ข่าวประเสริฐ
พระเจ้าทรงบอกเราให้เอา “ ความเชื่อเป็นโล่ห์ “ และ “ จะได้ดับลูกศรเพลิงของผู้ชั่วร้ายเสีย “ ในยุคโบราณลูกศรเพลิง มักจะเป็นอาวุธแรกของทางเลือกที่ใช้ในกองกำลัง เปาโลกำลังบอกเราว่านี่คือวิธีที่ซาตานโจมตีเรา พญามารระบุและสั่งการในการ การโจมตีของเขาบนความอ่อนแอของเราและความบกพร่องของเรา โดยกล่าวว่า “ คุณคิดว่าคุณเป็นใครล่ะ ? ความคิดของท่านและการกระทำที่คลืบคลานเข้ามาในหัวใจของคุณนั้นสกปรก และยังจะยอมรับที่จะเผยแพร่ข่าวประเสริฐอยู่อีกหรือ ? มันช่างไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ? คุณไม่คิดหรือว่ามันเป็นการทะนงตน ? ทำไมคุณไม่ทำให้คุณเข้มแข็งเสียก่อนล่ะ ? “ หากคุณติดอยู่กับลูกศรเพิงและจากนั้นก็ ยึดไว้ เพราะมันกล่าวว่า “ คุณถูกต้องแล้ว “ แล้วท่านก็จะถามตัวเองว่า “ ฉันเป็นปุโรหิตแบบไหนกันในเมื่อฉันไม่สามารถจัดการกับตัวเองไปได้อย่างถูกต้องเลย ? “ หากเกิดสิ่งนี้ขึ้นแล้ว จิตวิญญาณของท่านก็จะตายและท่านจะตายไปทางจิตวิญญาณ นี่คือเหตุผลที่อัครสาวกเปาโลบอกเรา ทั้งหมดนี้ให้เอาความเชื่อเป็นโล่ห์ อะไรจะปกป้องเราจากความคิดทางเนื้อหนังที่ซาตานพยายามปลูก ในหัวใจของเราทำให้เราตกลงไปสู่ความอ่อนแอ ? มันคือความเชื่อที่หนักแน่นในด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอียด นี่คือโล่ห์ ของความเชื่อ
เมื่อลูกศรเพลิงได้กราดยิ่งเข้าที่เรา พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงบอกเราให้เราปัดป้องมันออกไปด้วยความเชื่อนี้ “ พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ฉันเป็นคนชอบธรรมโดยด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม ฉันเชื่อในสิ่งนี้หมดหัวใจ “ โดยความเชื่อเช่นนั้นที่เราสามารถขับไล่ลูกศรไฟเหล่านี้และ อุบาย ทั้งหมดและการโจมตีที่วางไว้โดยซาตานได้
คุณมีความบกพร่องไหม ? เนื้อหนังของคุณมีความบกพร่องอย่างแน่นอน ท่านจะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งหมดนี้โดยความเชื่อ ที่เชื่อในอำนาจของพระเจ้าและข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณ หลังจากได้รับการยกความผิดบาปแล้ว แรกสุดท่านจะสามารถเกี่ยวข้องกับเรื่องเล็กๆได้โดยความเชื่อ แต่จากนั้นมา ความยากลำบากมากมายที่ไม่สามารถเกี่ยวข้อง ได้โดยวิธีอื่นนอกจากความเชื่อก็จะมาเคาะประตูบ้านท่าน ในตอนเริ่มต้น ความอ่อนแอของท่านอาจจะแสดงออกมาทีละน้อย แต่ในเวลาไม่นาน ความอ่อนแอก็จะยังคงเปิดเผยมาในระดับที่สูงกว่าและตรงมากขึ้นไปอีกด้วย ท้ายที่สุด ท่านจะท่วมท้นไปด้วยความอ่อนแอมากมายที่พวกเขาจะทำให้ท่านล่าถอย จากตัวท่านเอง
ในเวลาเช่นนี้ เมื่อท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับว่าท่านได้รับการยกความผิดบาปของท่านอย่างแท้จริงหรือไม่นั้นที่ซาตานเริ่มปล่อยการโจมตีของเขา กับท่าน ดังนั้นด้วยความเชื่อของท่านท่านจะต้องสามารถดูแลความอ่อนแอของท่านได้เช่นกัน อีกนัยหนึ่ง ท่านจะต้องปกป้องตัวท่านเองจากการมีความคิดทางเนื้อหนังเช่นนั้นที่นำท่านไปสู่ความพินาศของท่านเองเพราะความอ่อนแอของท่าน ด้วยโล่ห์ของความเชื่อ ท่านต้องป้องกันการโจมตีของซาตานและตะโกนว่า “ ซาตาน ไปอยู่ข้างหลังฉัน ! ตามที่โรม 1:17 กล่าวว่า ‘คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ’ ฉันยังคงชอบธรรมโดยความเชื่ของฉันในความชอบธรรมของพระเจ้าแม้ว่าฉันมีข้อบกพร่องมากมาย “ คนชอบธรรมจะต้องอยู่โดยความเชื่อ
มีอะไรที่้เราจะสามารถโอ้อวดตัวเองได้ในโลกนี้หรือ ? เราไม่มีอะไรตจะโอ้อวดได้เลย แต่เรายังคงมีความมั่นใจต่อหน้าประชาชนของโลกนี้ ประชาชนของโลกนี้อาจจะกล่าวกับท่านว่า “ หากท่านเป็นคนชอบธรรมแล้ว ฉันก็เป็นคนชอบธรรมเช่นกัน “ แล้วท่านควรจะตอบพวกเขาว่า ‘ จงฟัง หากท่านเป็นคนชอบธรรมแล้ว ฉันก็เป็นมารดาของคนชอบธรรมทั้งหมด ‘ มีผู้คนผู้ที่ไม่เข้าใจและโจมตีเราด้วยการลากเอาปมด้อยของเราออกมา “ คุณไม่ใช่นักเรียนที่ดี คุณทำสิ่งนี้ไม่ได้ และก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ด้วยเช่นกัน “ แม้ว่าพวกเขาจะโจมตีเราเช่นนี้ มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรสำหรับเราที่จะเป็นกังวล ท่านสามารถตอบได้ว่า” คุณถูกต้องแล้ว ฉันไม่ดีเลย แต่ย่งไปกว่านั้น ฉันเชื่อในข่าวประเสริฐที่แสนวิเศษนี้ คุณรู้ไหมว่าข่าวประเสริฐคืออะไร ? คุณรู้ไหมว่าด้ายสีฟ้าคืออะไร ? ด้ายสีม่วงล่ะ และด้ายสีแดงเข้มล่ะ ? ผ้าป่านเนื้อละเอียดล่ะ ? ไปดูข้อความดั้งเดิม มันจะใช้เวลาอย่างน้อยเป็นเดือนของวันอาทิตย์ก่อนที่ท่านจะพบความหมายของมัน ไม่ แท้จริงแล้ว คุณจะมีความสุขหากคุณสามารถถอดรหัสความลึกลับของมันได้แม้หลังจากปีนึงมาแล้วก็ตาม มันอาจจะใบ้เวลาถึง 500 ชั่วคนเลยทีเดียวก่อนที่คุณจะตระหนักถึงมันได้ ท่านรู้ไหมว่าด้ายทองคำคืออะไร ? ดีแล้วล่ะ ผมรู้และเชื่อมันทั้งหมด ไม่เหมือนคุณ “ เช่นเดียวกันนี้ ท่านจะต้องกำจัดการโจมตีของซาตานอย่างกล้าหาญโดยความเชื่อของท่าน ท่านจะต้องมีความเชื่อที่เข้มแข็ง และโดยความเชื่อนี้ท่านจะต้องขับไล่เขาไป
“ แม้ว่าฉันจะมีความบกพร่องแต่ฉันก็ยังคงรับใช้ข่าวประเสริฐของพระเจ้า รับใช้ข่าวประ เสริฐของน้ำและพระวิญญาณคือการรับใช้พระเจ้า แม้ว่าฉันจะขาดแคลน ฉันก็ยังคงเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรของพระเจ้า ฉันเป็นปุโรหิตหลวงผู้ที่เป็นเหมือนกษัตริย์ หากฉันไม่เผยแพร่ข่าวประเสริฐแล้วทุกคนก็จะจบลงในนรก “ พี่น้องทั้งหลาย ท่านจะต้องมีความเชื่อที่กล้าหาญเช่นนั้น ความเชื่อนี้ไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะได้รับมาได้ด้วยการบังคับ แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้เรา และดังนั้น ทั้งหมดที่ท่านจะต้องทำก็คือรับมันโดยความเชื่อ ท่านได้รับความเชื่อนี้ด้วยการเชื่อไหม ?
ในเอเฟซัส 6:17 นั้นอัครสาวกเปาโลแนะนำเราให้ “จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะและจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือพระวจนะของพระเจ้า “ ท่านรู้ว่าหมวกเหล็กคืออะไร ใช่ไหม ? จำอัศวินของยุคกลางได้ไหม ? พวกเขาสวมหมวกเหล็กที่ทำด้วยโลหะและประลองฝีมือกันและกันบนหลังม้าด้วยหอกยาว เมื่อพวกเขาสวมหมวกเหล็กเหล่านี้ที่ปิดหน้าของเขา บาดแผลลึกๆก็แทบจะไม่ทำอะไรพวกเขาได้ถ้าพวกเขาไม่โดนที่ตา สิ่งที่ป้องกันหอกที่โจมตีและปกป้องพวกเขานั้นได้ทำหมวกเหล็กเป็นพิเศษ เช่นเดียวกันนี้หมวกเหล็ก ของความรอดได้เล่นบทนั้น
เช่นเดียวกันนี้ ในหัวของเราก็เช่นกัน ความรู้จักความจริงจะต้องสมบูรณ์ ข่าวประเสริฐของความจริงจะต้องจัดระเบียบเป็นอย่างดีอย่างชาญฉลาดในความรู้ของเราเช่นกัน “ มันถูกหรือ ไม่ ? มันผิดหรือถูก ? “ แทนที่จะลังเลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของเราเช่นนี้ เราจะต้องมีความเข้าใจอย่างชัดเจนที่เรียงลำดับอยู่ในหัวใของเรา “ พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้ฉันชอบธรรมอย่างสม บูรณ์โดยด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้มฉันเชื่อในสิ่งนี้ “ เพียงเมื่อเราทำสิ่งนี้มันก็จะไม่มีความคิดที่กระเทาะออกมาที่ซาตานพยายามจะเข้ามาให้ได้ นี่คือจัดหาหมวกเหล็กของความรอดมาด้วยตัวเราเองเราจะต้องเชื่อด้วยความรู้ของความจริงที่ชัดเจน
และเปาโลก็บอกเราเช่นกันให้มีพระแสงของพระวิญญาณ พระแสงของพระวิญญาณนี้คือพระวจนะของพระเจ้า และดังนั้น เมื่อเราเรียนรู้ และเชื่อในพระวจนะ มันก็เหมือนกับมีเครื่องมือที่มีพลัง ซาตานโจมตีอย่างรวดเร็ว ผ่านคนอื่นๆ ผ่านเงิน ผ่านเพศตรงข้าม และผ่านความอ่อนแอของท่านเช่นกันแต่เราสามารถสู้กับ พวกเขาด้วยความเชื่อของเราในพระวจนะของพระเจ้าทั้งหมด
ในเอเฟซัสนั้น การใช้อุปมาจากจากเครื่องยศของมหาปุโรหิตรี้ อัครสาวกเปาโลอธิบายต่อเราว่าความเชื่อแท้จริงเป็นอะไรในวิธีนี้ “ ให้เอาความชอบธรรมมาเป็นทับทรวง “ อีกนัยหนึ่งเขากำลังบอกเราให้สวมทับทรวงของความจริงที่พรระเจ้าทรงทำให้เราเป็นคนชอบธรรม เปาโลบอกเราเช่นกันให้ “ เอาหมวกเหล็กของความรอดและพระแสงของพระวิญญาณ “ มาด้วยการใช้ตัวอย่างนี้ เขากำลังบอกเราให้ต่อสู้กับซาตาน เพื่อต่อสู้กับเขาด้วยการมีความรู้ของความจริงที่สมบูรณ์และเชื่อในพระวจนะของพระเจ้า เขากำลังบอกเราให้กำจัด ความชั่วร้ายที่ เป็นอุปสรรคต่อความเชื่อของเรา โดยไม่มีการลังเล คนทั้งหลายที่มีข่าวประเสริฐจอมปลอมเป็นผู้ที่อ้างว่าได้ชำระบาปของพวกเขาออกไปแล้วแม้ว่าพวกเขาเชื่อในส่วนหนึ่ง นั่นคือ ในโลหิตของไม้กางเขนของพระเยซูและการเป็นพระเจ้าของพระองค์มีคุณลักษณะเหมือนเป็นบุตรของพระเจ้า สิ่งที่เราจะต้องปฏิเสธและกำจัดออกไปนั้นเป็นความเชื่อเทียมนี้อย่างแน่นอน
ความเชื่อที่เชื่อในพระเยซูโดยไม่มีพันธกิจของด้ายสีฟ้านั้น เป็นเหมือนมหาปุโรหิตสวมเครื่องยศปลอม ในโลกนี้ มีคริสเตียนในนาม มากมายผู้ที่ละทิ้งด้ายสีฟ้าจากความเชื่องของพวกเขาที่ไม่สามารถนับพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม เราสวมข่าวประเสริฐของน้ำและพระวิญญาณในหนัง สือของเราและเป็นพยานข่าวประเสริฐนี้ที่มาโดยด้ายสีฟ้า สีม่วงและสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียด เป็นข่าวประเสริฐที่เราเชื่อ ไม่ว่าผู้คึนจะเชื่อหรือไม่ อย่างน้อยมันเป็นการมอบโอกาสให้พวกเขาได้อ่าน ได้รู้จัก และเชื่อในความจริงที่เราทำหนังสือของเราออกมาอย่างแท้จริงตามพระวจนะของพระเจ้า คนทั้งหลายที่เชื่อเพียงว่าพระเยซูคือพระเจ้าและว่าพระองค์ทรงชำระบาปของพวกเขาออกไปด้วยการหลั่งโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขนนั้นมีแนวโน้มที่จะส่งพื้นฐานของความเชื่อของพวกเขาไว้บนอารมณืของพวกเขาด้วยการหลอกลวงผู้อื่นและแม้แต่ตัวเอง แต่เราผู้ที่เชื่อในความจริงในตอนนั้น เชื่อ และประกาศนรั่นคือด้วยการให้บัพติศมาและหลั่งโลหิตจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนที่พระเยซูผู้เป็นเจ้าทรงช่วยเราให้รอดอย่างสมบูรณ์
ตอนนี้ท่านเชื่อว่าเครื่องยศของมหาปุโรหิตได้ทำโดยด้ายทองคำ ด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียดไหม ? คนทั้งหลายที่สวมในความรอดบริสุทธิ์ทั้งหมดคือผู้ที่กำลังสวมเครื่องยศที่ทำโดยด้ายทั้งห้าสีนี้ คนทั้งหลายที่เชื่อในการยกความผิดบาปในหัวใจของพวกเขาที่มาจากด้ายสีทอง สีห้า สีม่วง และสีแดงเข้มและผ้าป่านเนื้อละเอยีดนั้นเป็นประชาชนของความเชื่อแท้จริงและเป็นปุโรหิตทางจิตวิญญาณผู้ที่เชื่อว่าพวกเขารอดจากบาปทั้งหมดของพวกเขาแล้วอย่างแท้จริง
มีบางสิ่งที่คนทั้งหลายได้เป็นปุโรหิตทางจิตวิญญาณนั้นจะไม่ลืม มันคือความหมายของด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียดที่ป็นเงาของข่าวประเสริฐแท้จริง ด้วยความเชื่อในทั้งห้านี้ที่เราได้ทำเครื่องยศบริสุทธิ์ของการยกความผิดบาป สวมมันโดยความเชื่อ และมาอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า สิ่งนี้กล่าวถึงความเชื่อแท้จริงของเรา เพราะความเชื่อที่เชื่อในความจริงนี้ พระเจ้าทรงทำให้หัวใจของเราบริสุทธิ์ เหมือนกับที่พระองค์ทรงทำเพื่อมหาปุโรหิตของพันธสัญญาฉบับเก่า ด้วยการเชื่อในความจริงนี้ ที่เราทุกคนได้เป็นปุโรหิตต่อพระพักตร์พระเจ้า เราเป็น ปุโรหิตหลวงผู้ที่รับใช้พระเจ้า
พี่น้องทั้งหลายผมขอให้ท่านมีความความเชื่อที่เชื่อในความจริงนี้และด้วยความเชื่อนี้ที่ต่อ สู้กับซาตานและทำหน้าที่ของปุโรหิตของท่านได้สมบูรณ์ และด้วยการทำเช่นนี้ ผมหวังและ อธิษฐานว่าท่านจะทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตของท่านได้อย่างสัตย์ซื่อตลอดกาล ผมกล่างสิ่งนี้เพราะหากท่านสิ้นสุดการเชื่อในข่าวประเสริฐของด้ายสีฟ้า สีม่วง และสีแดงเข้ม และผ้าป่านเนื้อละเอียดแล้วความเป็นปุโรหิตของท่านก็จะถูกเอาออกไปจากท่านผมอธิษฐานว่าทุกๆท่านจะเป็นปุโรหิตที่สัตย์ซื่อมากขึ้น ผู้ที่เป็นที่พอพระทัยต่อพระเจ้าด้วยความเชื่อที่ไม่สั่นคลอนในข่าวประเสริฐที่แสนวิเศษนี้มันเป็นความหวังของผมที่ทุกท่านจะเชื่อในข่าวประเสริฐปท้จริงไปจนถึงที่สุดเพื่อที่ท่านจะไม่เสียข่าวประเสริฐของชีวิตนิรันดร์ไปปกป้องความเชื่อของท่านและทำหน้าที่ของการเป็นปุโรหิตไปอย่างเป็นนิรันดร์