Search

خطبے

เรื่องที่ 9: โรม (ข้อคิดเกี่ยวกับหนังสือของโรม)

[บทที่ 7-3] เหตุผลที่เราสรรเสริญพระเยซูได้ (โรม 7:5–13)

(โรม 7:5–13)
“เพราะว่าเมื่อเราดำเนินชีวิตตามทางโลกตัณหาชั่วที่ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นนั้นได้ทำให้อวัยวะของเราก่อกรรมชั่วนำไปสู่ความตายแต่บัดนี้เราได้พ้นจากธรรมบัญญัติคือได้ตายจากธรรมบัญญัติที่ได้ผูกมัดเราไว้ เพื่อเราจะได้ไม่ประพฤติตามตัวอักษรในประมวลธรรมบัญญัติเก่า แต่จ ดำเนินชีวิตใหม่ตามลักษณะพระวิญญาณถ้าเช่นนั้นเราจะว่าอย่างไรว่าธรรมบัญญัติคือบาปหรือ
หาเป็นเช่นนั้นไม่แต่ว่าถ้ามิใช่เพราะธรรมบัญญัติแล้วข้าพเจ้าก็คงไม่รู้จักบาปเพราะว่าถ้าธรรม
บัญญัติมิได้ห้ามว่า ‘อย่าโลภ’ ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้ว่า อะไรคือความโลภ แต่ว่าบาปได้ถือเรา ระบัญญัตินั้นเป็นช่องทำให้ตัณหาชั่วทุกอย่างเกิดขึ้นในตัวข้าพเจ้าเพราะว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติ
บาปก็หาดำรงอยู่ไม่เมื่อก่อนข้าพเจ้าดำรงชีวิตอยู่นอกเหนือธรรมบัญญัติแต่เมื่อมีธรรมบัญญัติขึ้นบาปก็เกิดขึ้นและข้าพเจ้าก็ตายพระบัญญัตินั้นซึ่งมีขึ้นเพื่อการดำรงชีวิตก็ปรากฏแล้วว่าเป็นเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องตาย เพราะว่าบาปได้ถือเราพระบัญญัติ นั้นเป็นช่องทางล่อลวงข้าพเจ้า แล ประหารข้าพเจ้าให้ตายด้วยพระบัญญัตินั้นเหตุฉะนั้นธรรม บัญญัติจึงเป็นสิ่งบริสุทธิ์ และข้อบั ญัติก็บริสุทธิ์ยุติธรรมและดีงามถ้าเช่นนั้นสิ่งที่ดีกลับทำให้ข้าพเจ้าต้องตายหรือหามิได้บาปต่าง
หาก คือบาปซึ่งอาศัยสิ่งที่ดีนั้นทำให้ข้าพเจ้าต้องตาย เพื่อจะให้ปรากฏว่าบาปนั้นเป็นบาปจริง และโดยอาศัยธรรมบัญญัตินั้น บาปก็ปรากฏว่าชั่วร้ายยิ่งนัก”
 
 
ผมขอสรรเสริญพระเยซูเจ้าที่ทรงนำผมมาทุกวันนี้
 
ผมขอขอบคุณพระเยซูผู้ทรงนำให้ผมได้พบกับท่าน และได้เป็นคนที่ล้ำค่าของพระเจ้า ผ ขอขอบคุณพระองค์อย่างจริงใจสำหรับการให้พระพรแก่ผมให้ผมดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขจนถึงทุกวันนี้พระเจ้าอยู่กับผมตลอดเวลาและทรงประทานพระเมตตาแก่ผมแม้ว่ามีหลายครั้งที่ผมรู้
สึกท้อแท้หลายครั้งที่ผมพบกับความทุกข์ทรมานเจ็บปวดและมีความอ่อนแอในตัวเองในโอกาส
ต่างๆกัน พระองค์ทรงมีชีวิตและทรงอยู่กับผมตลอดชีวิตของผมทั้งยามผมมีปัญหา และยามผม ความสุข ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าพระองค์ทรงปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว ไม่เคยแม้แต่เป็นครั้งที่สอง
พระเจ้าอวยพระพรให้เรามามากเท่าใดแล้วนี่!พระองค์จะประทานความเมตตาให้แก่เราสัก 2–3 ครั้งและท้ายที่สุดเราก็จะหมดความอดทน แต่พระเจ้าก็ไม่ใช่มนุษย์และความอดทน ของ พระองค์ก็ไม่มีขีดจำกัดพระองค์ยังคงประทานความเมตตาให้แก่พวกเราอย่างไม่รู้จักจบบางครั้ง
เรากระทำสิ่งที่ดีและไม่ดี บางครั้งเราเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์หรือไม่เชื่อฟัง เราไม่สามารถ ช่วยในความรักของพระเจ้าได้ แต่เราสรรเสริญ ยกย่องบูชา และเชื่อฟังพระองค์ได้ กษัตริย์เดวิด ตรัสสรรเสริญพระเยซูออกมาจากชีวิตทั้งหมดของพระองค์ขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับการดูแลท่านตลอดเวลาที่ท่านมีปัญหาที่ยากลำบากในชีวิต ท่านได้สารภาพออกมาว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์ตะลุยกองทัพได้โดยพระองค์และโดยพระเจ้าของข้าพเจ้านี้ข้าพเจ้าสามารถกระโดด
ข้ามกำแพงได้” (สดุดี 18:29)
พระเจ้าอวยพระพรให้เรามามากเท่าใดแล้วนี่! เรายังสรรเสริญพระองค์ไม่พอ เราจะพอใจ ไหมถ้าเราสร้างโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้? เราจะพอใจไหมถ้าเราสร้างโบสถ์ที่สูงถึงฟ้าได้? ไม่ แน่นอน! เราสามารถสร้างโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุด สวยที่สุดเท่าที่เราจะจินตนาการได้แต่ขนาดหรือ ความสวยของโบสถ์ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ความจริงในภารกิจที่ล้ำค่าของพระเจ้าที่เรียกว่าพระวิญ
ญาณทำให้ได้ยินพระวจนะของพระองค์และอนุญาตให้เกิดใหม่โดยการเชื่อในพระวจนะของพระองค์ และเราก็ไม่สามารถทำอะไร เลย แต่เพียงแค่สรรเสริญพระเยซูเพื่อพระพรทั้งหมดนี้ เราขอขอบคุณพระเจ้าที่ทรงอนุญาตให้เรารับใช้พระองค์เพื่อนำไปสู่ผลของภาระกิจของพระองค์ที่แท้จริง ไม่อย่างนั้นเราก็มีชีวิตที่สูญเปล่า
ท่านขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงนำท่านไปนั่งในสถานที่ใหม่หรือไม่?พระเจ้าทรงประทานพรอันวิเศษแก่เราอย่างไม่จำกัดและทรงรักษาเราไว้เหมือนกับเป็นผลแอปเปิลในสายพระเนตรของพระองค์เราเป็นใครและอะไรที่เราจะทำเพื่อให้สมควรได้รับความรักทั้งหมดจากพระ
องค์? เราไม่มีใครและเราไม่ได้ทำอะไรเลย และพระเจ้าทรงทำให้เรามีค่าก่อนพระองค์ เพราะว่า เราเกิดใหม่อีกครั้ง เราเคยเป็นอะไรสักอย่าง แต่มีค่าก่อนที่เราจะพบกับพระเยซูคริสต์ พระเจ้า ทรงทำความบ้าคลั่งของเราผู้เป็นบุตรของพระองค์แตกเป็นฟองออกมาและเดินไปอย่างไม่มีจุด
หมายกลางทะเลทราย ถูกกำหนดให้ต้องตายและสูญสิ้นไปเป็นฝุ่นผงและเถ้ากระดูก
ความรักที่พระเจ้าทรงประทานให้กับเราช่างยิ่งใหญ่และสวยงามอะไรเช่นนี้!ขอสรรเสริญพระผู้เยซู!มีจิตวิญญาณมาหมายในโลกนี้ที่พระเจ้าประทานให้กับเราด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
บนความชอบธรรมของพระองค์ มันเป็นการไถ่บาปมากกว่าเป็นการส่งมอบ มันหมายความว่า ดวงวิญญาณของเราตอนนี้กำลังรับศีลมหาสนิทกับพระเจ้ามันหมายความว่าตอนนี้ความรักของ
พระองค์เป็นของเรา มันหมายความว่าเราสามารถร้องขอพระพรจากพระองค์ได้เช่นกัน
ด้วยคำแนะนำและแรงสนับสนุนที่น่าทึ่งของพระเจ้า ที่เรายังคงพบในตัวของเราเอง ใน โบสถ์ของพระองค์พระเจ้าทรงรักษาเราไว้ที่นี่เรามาที่นี่ได้อย่างไร?พระองค์ไม่ทรงรักเราและไม่
ทรงอวยพรให้เราเราจะสอนคำสอนในพระคัมภีร์และรับใช้พระองค์ได้อย่างไร?เราสามารถรับใช้พระเจ้าได้เพราะว่าพระองค์ยังคงอยู่กับเราและทรงประทานพระพรให้เรา
ถ้าพระเจ้าไม่รักษาและประทานพรให้กับเราเราก็ไม่สามารถสรรเสริญพระองค์ก่อนได้
พระเจ้าประทานความรักประทานพร ทรงสนับสนุน และทรงปกป้องเราด้วยพระหัตถ์ที่เปี่ยมไป ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ดังนั้น เราอาจจะรับใช้ เชื่อฟัง สรรเสริญและยกย่องบูชาพระองค์ มันไม่จริงใช่ไหม?เราสรรเสริญพระเจ้าด้วยหัวใจทั้งหมดของเราเพื่อภารกิจอันน่าทึ่งของพระองค์และความรักที่ไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อเรา
พระเจ้าทรงทำหลายสิ่งหลายอย่างให้กับผู้ที่พระองค์ทรงช่วยให้รอดพระองค์ทรงนำพวก
เราและยังคงสร้างความศรัทธาในการเกิดใหม่ของเรา แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และทรงยืนยันว่าพระเจ้า ทรงประคองพวกเราและพระองค์ทรงปกป้องพวกเราพระเจ้าทรงปฏิบัติภารกิจและทรงทำให้พระประสงค์ของพระองค์สมบูรณ์ผ่านพวกเรา
ผมเชื่อว่าพระเจ้าประทานพรให้ศาสนจักรทั้งหมดของพระองค์ที่ได้ประกอบพิธีการเกิด
ใหม่อันศักดิ์สิทธิ์และจะประทานพรให้พวกเขาตลอดไปพระเจ้าทรงอยู่กับเราเสมอเพื่อให้เราอด
ทนและทรงปฏิบัติภารกิจของพระองค์ต่อไปทรงทำให้วิญญาณของเราแข็งแรงและจัดเตรียมหัว
ใจของเราให้มีความศรัทธาที่จะได้รับพรมากขึ้นพระคุณของพระองค์ที่มีต่อเราช่างยิ่งใหญ่อะไร
เช่นนี้! ขอขอบพระคุณพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง
 
 

เราสรรเสริญพระเจ้าได้ด้วยหัวใจทั้งหมดของเรา

 
“เพราะว่าเมื่อเราดำเนินชีวิตตามทางโลก ตัณหาชั่วที่ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นนั้น ได้ทำ ให้อวัยวะของเราก่อกรรมชั่วนำไปสู่ความตาย แต่บัดนี้ เราได้พ้นจากธรรมบัญญัติ คือได้ตาย จากธรรมบัญญัติที่ได้ผูกมัดเราไว้เพื่อเราจะได้ไม่ประพฤติตามตัวอักษรในประมวลธรรมบัญญัติ
เก่า แต่จะดำเนินชีวิตใหม่ตามลักษณะพระวิญญาณ” (โรม 7:5–6) อย่างไรก็ตาม พระคัมภีร์ไบเบิล กล่าวอีกเช่นกันว่า “แต่บัดนี้ เราได้พ้นจากธรรมบัญญัติ คือได้ตายจากธรรมบัญญัติที่ได้ผูก มัดเราไว้เพื่อเราจะได้ไม่ประพฤติตามตัวอักษรในประมวลธรรมบัญญัติเก่าแต่จะดำเนินชีวิตใหม่ตามลักษณะพระวิญญาณ”
เนื้อหนังทำให้ตัณหาชั่วพ้นไปได้หรือไม่? มนุษย์เรามีสองด้านด้วยกัน ด้านเนื้อหนัง และ ด้านจิตใจทางด้านเนื้อหนังนั้นไม่สามารถเข้าถึงความชอบธรรมของพระเจ้าเนื้อหนังของเราไม่
สามารถรักษากฎของพระเจ้าได้เลยแม้หลังจากที่เราเกิดใหม่แล้วก็ตามเราจึงต้องมีความพยายาม
เป็นอย่างมาก ดังนั้นเปาโลจึงกล่าวว่า “เพราะว่าเมื่อเราดำเนินชีวิตตามทางโลก ตัณหาชั่วที่ ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นนั้น ได้ทำให้อวัยวะของเราก่อกรรมชั่วนำไปสู่ความตาย แต่บัดนี้ เรา ได้พ้นจากธรรมบัญญัติ คือได้ตายจากธรรมบัญญัติที่ได้ผูกมัดเราไว้”
โรม 4:15 กล่าวว่า “เพราะธรรมบัญญัติเป็นเหตุให้มีการลงพระอาชญา แต่ที่ใดไม่มีธรรม บัญญัติ ที่นั่นก็ไม่มีการละเมิดธรรมบัญญัติ” เราต้องสรรเสริญพระเจ้าด้วยหัวใจของเรา พระเจ้า ทรงทำให้เราสรรเสริญพระองค์ในชีวิตใหม่ตามพระวิญญาณไม่ใช่ในประมวลธรรมบัญญัติเก่า เพราะว่าเราได้รับการประคองจากธรรมบัญญัติและได้รับการสาปแช่งจากพระอาชญาของธรรม
บัญญัติ
เนื้อหนังจึงแตกต่างจากหัวใจเนื้อหนังมีข้อจำกัดแต่หัวใจสามารถรับพระวจนะของพระ
เจ้าและสรรเสริญพระองค์ด้วยความศรัทธาได้ หัวใจก็สามารถนำพาให้พ้นจากบาปได้
เราจะต้องตายเพื่อธรรมบัญญัติ ผมตายแล้ว เพราะว่าผมตายเพื่อสิ่งที่ผมยึดถือ เนื้อหนัง ของเราจึงตายแล้วเพื่อพระเจ้าด้วยเนื้อหนังของเราทำให้เราไม่สามารถเข้าถึงความชอบธรรมของพระเจ้าและทั้งแสดงความบริสุทธิ์ก่อนธรรมบัญญัติของพระเจ้าเนื้อหนังไม่สามารถเลี่ยงการถูก
พิพากษาได้พระเจ้าผู้เป็นพระบิดาทรงส่งพระบุตรพระองค์เดียวของพระองค์คือพระเยซูคริสต์ผู้
ทรงผ่านการลงโทษของธรรมบัญญัติทั้งหมดมาที่พระองค์ ผู้ทรงถูกสังเวยในที่ของพวกเรา ด้วย เหตุนี้พระเจ้าทรงมอบอำนาจให้เรารับใช้พระเยซูค้วยความศรัทธาในชีวิตใหม่ตามลักษณะพระ
วิญญาณไม่ใช่ตามตัวอักษรในประมวลพระบัญญัติเก่าที่ได้ยึดพวกเราโดยธรรมบัญญัติภายใต้พระอาชญา
ตอนนี้เราสรรเสริญพระเจ้าด้วยความศรัทธาได้ด้วยหัวใจของเราแม้ว่าเรายังคงมีเนื้อหนัง
อยู่หัวใจของเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงรักเราได้เราสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้เพราะว่าเราเชื่อว่าเรา
ต้องตายในพระคริสต์ พระเจ้าทรงช่วยพวกเราให้รอดจากพระอาชญาของธรรมบัญญัติ พระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบิดาส่งพระบุตรพระองค์เดียวของพระองค์มาเพื่อพวกเราผู้ได้คำสาปแช่งของธรรมบัญญัติและการพิพากษาของพระเจ้าและเพื่อเวลาที่กำลังมาถึงพระองค์ทรงผ่านบาปทั้งหมดของ
เราและทรงรับการลงโทษของพระเจ้าไปยังพระบุตรของพระองค์ด้วยเหตุนี้พระเจ้าทรงช่วยผู้ที่
ยอมรับความจริงของพระองค์ และเชื่อในพระองค์จากบาปของพวกเขาเอง พระพิพากษาของ พระองค์และการลงโทษของธรรมบัญญัติเราสรรเสริญพระเจ้าเพื่อช่วยพวกเราให้รอดจากบาปทั้งหมดของเรา
เราเชื่อว่าด้วยความเต็มใจอย่างยิ่งว่าพระเจ้าทรงช่วยเราให้ไปสู่ความชอบธรรมของพระ
องค์เราขอบพระคุณพระเจ้าสรรเสริญและเลื่อมใสพระองค์ด้วยหัวใจทั้งหมดของเราเพื่อความรัก
ของพระองค์แต่เราสามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยเนื้อหนังหรือ? ไม่เลย เมื่อเราอยู่ตามทางโลก ตัณหา ชั่วที่ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นทำให้อวัยวะของเราก่อกรรมชั่วนำไปสู่ความตายเนื้อหนังปรากฏ
อยู่ภายใต้พระอาชญาของพระเจ้า
ตอนนี้เราถูกนำให้พ้นจากพระอาชญาของธรรมบัญญัติโดยความศรัทธาพระเจ้าทรงให้เราเชื่อฟังพระองค์ด้วยความศรัทธาของเราเองในความรักและการไถ่บาปไม่ใช่โดยตัวอักษรในประ
มวลธรรมบัญญัติเก่าและไม่ใช่โดยพระอาชญาของพระบัญญัติของพระเจ้า
ไม่มีใครเลยที่สามารถเชื่อฟังพระเจ้าด้วยการกระทำของพวกเราแม้ว่าเราได้เกิดใหม่อีกครั้งเราก็ไม่สามารถรับใช้พระเจ้าด้วยเนื้อหนังของเราแม้หลังจากที่เราเกิดใหม่แล้วก็ตามเราสามารถ
สรรเสริญพระเจ้าและรับใช้พระองค์เพียงแค่หัวใจของความศรัทธาของเรา ดังนั้น เมื่อท่านสรร เสริญพระเจ้า เชื่อด้วยหัวใจของท่านและขอบคุณสำหรับความรักของพระองค์ จากนั้น เนื้อหนัง สามารถเป็นเครื่องมือให้ไปตามความศรัทธาได้
ผมสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยเราให้รอดจากพระอาชญาทั้งหมดของพระธรรมบัญญัติ
และผมเชื่อในหัวใจของผมเอง ผมขอบคุณพระเจ้า พระองค์ทรงช่วยผมทั้งหมด พระองค์ทรงท ำให้ผมพ้นจากบาปและจากการสาปแช่งของธรรมบัญญัติเราต้องไม่มีความสงสัยในการที่พระ
องค์ทรง ช่วยเราให้รอด พระเจ้าก็จะทรงช่วยเราให้รอดเพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา การที่ พระเจ้าทรงทำให้เรามีความชอบธรรมมันน่าประหลาดใจเพียงใดหากเราเต็มไปด้วยจุดบกพร่อง
นั้น? มันน่าอัศจรรย์เพียงใดที่พระองค์ทรงทำให้เราเป็นผู้ชอบธรรมของพระองค์?
เราสรรเสริญพระองค์ได้เพราะพระองค์ทรงช่วยให้เรารอดจากพระอาชญาของพระธรรม
บัญญัติเราเชื่อฟังพระเจ้าได้ด้วยวิญญาณและหัวใจของเราเองเราขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงนำเราให้
พ้นจากบาปของเรา และพ้นจากพระอาชญาของพระองค์ ท่านขอบคุณพระเจ้าไหม? การไถ่ บาปของเราเปิดเผยออกมาเพียงแค่ว่า เราอ่อนแอเพียงใดหรือ? แม้ว่าเราพยามยามที่จะทำดีที่สุด เราล้มเหลวในชีวิตที่จะดำรงอยู่ตามพระประสงค์ของพระเจ้ากี่ครั้งแล้ว? เราชอบคุยโวกี่ครั้งแล้ว? เรามีความอ่อนแอมากเพียงใด?เราไม่เคยสรรเสริญพระเจ้าด้วยเนื้อหนังและการกระทำได้ทั้งใน
ปัจจุบันและอนาคตการสรรเสริญพระเจ้าด้วยหัวใจเพื่อสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพียงแค่หัวใจและ
ความศรัทธาของเรา เราก็สรรเสริญพระเจ้าได้
 
 

เราไม่สามารถสรรเสริญพระเจ้าด้วยเนื้อหนังได้

 
ในขณะที่เราเชื่อฟังพระเจ้าความชอบธรรมส่วนตัวเราจะแตกหักเป็นชิ้นๆคำว่าจิตใจและ
เนื้อหนังต้องแยกออกจากกัน นี่คือการแยกพระวิญญาณออกจากเนื้อหนัง
ท่านเชื่อไหม? มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะพยายามด้วยเนื้อหนัง เมื่อเราร้องเพลง เมื่อเรา สนุกสนาน เมื่อเราสรรเสริญ เมื่อเราเชื่อและขอบคุณด้วยหัวใจของเรา เนื้อหนังของเรา ก็จะเชื่อฟังพระเจ้าที่ยินยอมด้วยหัวใจของเราเราสรรเสริญพระเจ้าและขอบคุณพระองค์เพื่อการไถ่บาปของเราดังบทเพลงที่ว่า “♫บาปของฉันได้ไปหมดแล้วเพราะชีวิตของคาลวินที่ถูกเติมให้เต็ม ด้วยบทเพลงทั้งหมดเพราะคาลวิน:พระคริสต์ที่ช่วยฉันให้รอดจากบาปในบางวันพระองค์เสด็จมา โอ ช่างเป็นวันที่น่าอัศจรรย์ใจอะไรเช่นนี้! ใช่ทั้งหมดนี้เพราะคาลวิน♫” แต่บางครั้งเรา ทำพลาดเพราะเนื้อหนัง เราคิดถึงตัวของเราเองว่า “ทำไมฉันถึงอ่อนแอจังเลยทั้งๆที่ฉันไม่มีบาป?” จากนั้นเราก็แปลกใจกับตัวเองว่า “‘♪บาปของฉันได้พ้นไปหมดแล้ว’ มันถูกต้อง ‘♪ชีวิตถูก เติมเต็มทำให้เต็มไปด้วยบทเพลง♪’ นี่ก็ถูกต้องเช่นกัน ‘♪ทั้งหมดเพราะคาลวิน♪’ นี่ก็ถูกต้อง ทั้งหมดแต่ทำไมฉันยังอ่อนแออยู่ล่ะ?ฉันควรจะขอบคุณและทำตามพระองค์อย่างมีความสุขมาก
กว่านี้ แต่ทำไม่ฉันเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง? อา! เนื้อหนังที่ช่างน่าเวทนาของฉัน!”
ตอนที่เรารู้สึกเสียใจพระเจ้าตรัสกับเราว่า “ทำไม่เจ้าถึงโยนวิญญาณของเราลง? เจ้ารู้ไหม ว่าเราคือผู้ช่วยเจ้าให้รอด?เราทำให้เจ้าเป็นผู้มีความชอบธรรม”เราเชื่อฟังและทำตามพระเจ้าไม่ได้ด้วยเนื้อหนังเราเชื่อฟังพระองค์ได้โดยเชื่อถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทรงทำให้กับเราด้วยการรักพระ
องค์ ด้วยการขอบคุณพระองค์ ด้วยการเลื่อมใสบูชาพระองค์ด้วยหัวใจของเรา
ผมอยากจะให้ท่านสรรเสริญพระเจ้าด้วยหัวใจของท่านผมก็อยากจะให้ท่านเชื่อและขอบ
คุณพระเจ้าด้วยหัวใจของท่าน สิ่งนี้มันเป็นไปได้เพียงแค่ผ่านหัวใจของพวกเรา มันเป็นไปไม่ ได้ในเนื้อหนัง เนื้อหนังยังคงถูกรักษาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แม้หลังจากที่เราถูกช่วยให้รอดแล้ว พระ วจนะของพระเจ้าก็มีเพื่อผู้ที่ถูกช่วยให้รอดและยังไม่รอดจากบาปเช่นกัน
 
 

ท่านยังคงทำตามพระทัยของพระเจ้าด้วยเนื้อหนังหลังจากที่ท่านถูกช่วยให้รอดแล้ว หรือไม่?

 
ท่านยังตามพระทัยพระเจ้าด้วยเนื้อหนังหลังจากที่ท่านถูกช่วยให้รอดแล้วหรือไม่? ท่าน คิดว่าท่านสามารถทำตามพระทัยพระเจ้าได้เพราะว่าท่านแตกต่างจากผู้อื่นและท่านเชื่อฟังพระเจ้าได้มากกว่าที่พวกเขาทำไหม? ผู้ที่ทำให้พระองค์พอพระทัยด้วยความชอบธรรมของตัวเขาเองนั้น วันหนึ่งจะต้องตกลงไปในคู มีบางคนที่เคยตกลงไปในคูและในถังปุ๋ยหมักแล้ว
มีแม่ชีท่านหนึ่งที่เคยตกลงไปในถังนั้นแล้วขณะที่ท่านอยู่ในการประชุมพระคัมภีร์ไบเบิ้ลภาคฤดูร้อนผมหมายถึงว่ามันเป็นส้วมจริงๆแต่ยังไม่เคยถูกใช้เลยแต่ถ้าใครใช้แล้วเธอคงเปรอะ
เปื้อนอย่างมาก เราขุดหลุมลึกและส้วมนี้อยู่บนเนินเขาตอนที่เราจัดเตรียมการประชุม จากนั้น เราวางที่วางเท้าไว้ในห้องน้ำแต่ละห้อง แต่เราไม่ได้ปรับที่วางเท้าให้เข้ากับส้วมแต่ละห้อง ดังนั้น แม่ชีท่านนั้นจึงตกลงในหลุมได้พระเจ้าทรงขุดหลุมนี้เพื่อผู้ที่ทำให้พระองค์พอพระทัยด้วยความ
ชอบธรรมของตัวเอง พระเจ้ามีพระประสงค์ให้เราเลื่อมใสบูชาพระองค์แต่เพียงพระองค์เดียว
จิตวิญญาณของผู้ที่รู้สึกอึดอัดและไม่พอใจตอนที่ผมหันเหออกจากเส้นทางที่ถูกต้องหลัง
จากที่ถูกช่วยให้รอดแล้วผมไตร่ตรองถึงความรู้สึกอย่างนี้ดูผมจึงตระหนักว่าเสื้อผ้าของผมเปื้อน
ไปด้วยสิ่งสกปรก ผมทราบ ว่าผมนึกว่าไม่น่าจะไปทางนั้น แต่ผมก็ลืมโดยเร็ว ตราบเท่า ที่ผมได้ตระหนักว่าผมได้สำนึกผิดแล้ว ผมจึงกล่าวว่า “ผมไม่ควรทำอย่างนี้ ผมคิดอะไรอยู่นี่? โอพระเจ้าผมขอสรรเสริญพระองค์เพื่อการล้างบาปทั้งหมดของผมออกไป”แต่ผมทำบาปอีกครั้ง
หนึ่งบางครั้งผมอยู่ในความปราณีของพระเจ้าและทันใดนั้นก็ตกลงสู่บาปจากนั้นผมพบว่าผมได้
หนีออกจากบาปไปสู่ความปราณีของพระเจ้า กลับมาและออกไปสลับไปเรื่อยๆ ดังนั้น ผม ถอนใจด้วยความเศร้าโศกและรู้สึกสิ้นหวังในชีวิตที่มีอยู่
ผมจึงได้ทราบว่า ผมมีความสกปรกมากเท่าใด หลังจากผมได้ยกความผิดบาปของผม ผม เข้าใจอย่างลึกซึ้งและคิดว่า “มันช่างน่ากลัวมาก ทำไมผมช่างไม่มีความมั่นคง และอ่อนแอ แม้ว่า ผมจะเชื่อในพระเจ้าแล้ว?”ตัณหาชั่วที่ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นได้ทำให้อวัยวะของเราก่อกรรม
ชั่วผมตระหนักว่ามากไปกว่าที่ผมได้พยายามที่จะอยู่ด้วยธรรมบัญญัติมากไปกว่าที่ตัณหาของผม
ตกลงไปสู่ตัณหาชั่วผมจึงทราบว่าเนื้อหนังไม่สามารถตามพระเจ้าได้ผมเชื่อฟังพระเจ้าโดยการ
แสดงเนื้อหนังของผมว่าเป็นเครื่องมือของความชอบธรรมของพระเจ้าและสรรเสริญสิ่งที่พระเจ้าทรงประทานพรให้ หลังจากที่เชื่อในพระองค์ด้วยหัวใจของผม
 
 

เนื้อหนังคือก้อนของตัณหาชั่ว

 
ผู้ที่ไม่ทราบว่าเขาคือก้อนของตัณหาชั่วต้องประหลาดใจว่าตอนที่เขาหยุดเชื่อฟังพระเจ้า
ไปชั่วขณะหนึ่งนั้นเขาตกไปสู่บาปได้รวดเร็วเพียงใด เราจะต้องเชื่อในพระเจ้า สรรเสริญพระองค์ บูชาพระองค์ และเชื่อฟังพระองค์ด้วยหัวใจของเรา ซึ่งก็คือการได้รับพรอันประเสริฐของพระองค์ เพียงเมื่อเราเชื่อในพระองค์ด้วยหัวใจของเรา เราก็เชื่อฟังพระเจ้าได้ เมื่อเราดำเนินชีวิตตามทาง โลกตัณหาชั่วที่ธรรมบัญญัติเร้าให้เกิดขึ้นนั้นได้ทำให้อวัยวะของเรา ก่อกรรมชั่วนำไปสู่ความตาย เมื่อเราได้สรรเสริญหรือเชื่อฟังพระเจ้าด้วยหัวใจของเราเองเนื้อหนังของเราก็ตกไปสู่ตัณหาชั่ว
อย่างรวดเร็ว พวกเราทุกคนก็เป็นเช่นนี้เหมือนกับท่านเปาโล
ท่านเปาโลได้อยู่คนเดียวตลอดทั้งชีวิตเพื่อสอนคำสอนของพระเยซูแต่ได้ทราบว่าบาปได้
กลับมีมาอีกครั้งผ่านตัณหาชั่วของเนื้อหนัง เขาอาจจะเคยคิดว่า “ผมกลัวจังเลย ที่ผ่านมาบางครั้ง ผมเคยได้รับความสุขที่สมบูรณ์ แต่ทำไมตอนนี้ผมช่างเศร้าสร้อยเสียเหลือเกิน? เกิดอะไรกับผม หรือ? เมื่อก่อน บางครั้งผมเคยมีชีวิตชีวา แต่ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกเหมือน คนเหลวแหลก” หลังจาก ที่คิดถึงมันแล้ว เขาจึงเข้าใจว่า เขาไม่สามารถเชื่อฟังพระเจ้าได้ถ้าไม่แยกเนื้อหนังออกจากหัวใจ เนื้อหนังยอมอ่อนข้อให้แก่หัวใจเมื่อเราสรรเสริญและเชื่อฟังพระเจ้าด้วยหัวใจของเราเปาโลตระ
หนักว่านี่คือความจริง เราช่วยไม่ได้แต่ทำบาป ท่านเข้าใจหรือไม่? เมื่อใครคนนั้น ไม่มีบาป แล้วสรรเสริญ เชื่อ และปฏิบัติตามพระเจ้าด้วยหัวใจของตัวเองเนื้อหนังจะเชื่อฟังหัวใจ ตอนแรก ก็อาจจะคิดว่า “เราได้รับการช่วยให้รอดจากบาปทั้งทั้งหมด ฮาเลลูยา มีความสุขจังเลย” แต่ตัณหา ชั่วได้เปิดเผยออกมาจากคนๆนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในตอนนั้นผู้ที่ทำให้ความชอบธรรมของตัวเองสมบูรณ์ก็รู้สึกผิดหวังกับตัวเองง่ายขึ้นแล้วตัณหาชั่วของพวกเราก็ออกมาทีละน้อยแม้ว่าพวกเขาไม่
คิดเช่นนั้นแต่พวกเขาก็จะแย่ลงมากกว่าที่พวกเขาคิดเกี่ยวกับตัวของเขาเอง
เราจะต้องทราบว่า เนื้อหนังของเราคือก้อนของตัณหาชั่วท่านจะต้องไม่ขึ้นกับมัน ต้องอยู่ ด้วยความปราณีของพระเจ้าเลื่อมใสบูชาพระองค์และเชื่อฟังพระองค์ด้วยหัวใจทั้งหมดของท่าน
สรรเสริญพระเจ้าเพื่อความปราณีของพระองค์ที่ยอมรับผมผู้เคยเลวร้ายและเต็มไปด้วยความชอบธรรมของตัวเอง สอนคำสอนของพระเยซู! ผมจะทำอย่างนี้โดยปราศจาก ความปราณีของพระเจ้า ได้อย่างไร? ผมสามารถสรรเสริญพระองค์ได้เพียงอย่างเดียว
 
 
ผมขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงมอบอำนาจให้ผมสรรเสริญพระองค์
 
ขอบคุณพระเจ้าผู้ทรงล้างบาปทั้งหมดของเราออกและทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทำให้เราสรรเสริญพระองค์ด้วยหัวใจของเราไม่ใช่ด้วยเนื้อหนังเราสรรเสริญบูชาพระองค์เพราะ
ว่าเราเชื่อในพระองค์ด้วยหัวใจของเราเอง
“เหตุฉะนั้นเรามั่นใจอยู่เสมอ รู้อยู่แล้วว่า ขณะที่เราอยู่ในร่างกายนี้ เราอยู่ห่างจาก องค์พระผู้เป็นเจ้า” (2 โครินธ์ 5:6) ผมสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงช่วยเราให้รอดจากบาปของเราเอง ผมสรรเสริญและขอบคุณต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผมบูชาและเชื่อในพระองค์พระเจ้าทรงช่วยเราให้
รอดจากบาปของเรา และถูกกำหนดแล้ว ให้ต้องตายหลังจากอยู่ด้วยตัณหาชั่ว พระองค์ทรง อนุญาตให้เราได้รับการช่วยให้รอดโดยการเชื่อในพระเจ้าด้วยหัวใจของเราพระองค์ทรงทำให้เราสรรเสริญพระองค์และทรงประทานความสุขให้เรา
อย่าพยายามเชื่อฟังพระเจ้าด้วยเนื้อหนังมันเป็นไปไม่ได้ยอมแพ้กับความพยายามของเนื้อหนังอันนั้น จากนั้นเราจะเชื่อฟังพระเจ้าได้อย่างไร? คำตอบคือ ด้วยหัวใจของพวกเรา เรา สามารถรับใช้พระองค์ด้วยหัวใจในชีวิตใหม่ตามลักษณะพระวิญญาณ พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอด ดังนั้นเราต้องเชื่อฟังพระองค์ด้วยหัวใจของท่าน ที่จะทำให้ท่านได้รับการไถ่บาป
ผมสรรเสริญพระเจ้าจะมีซักกี่คนที่คร่ำครวญในตัวเองเช่นนี้?พวกเขาทำสัญลักษณ์ด้วย
ความเศร้าโศกและความเจ็บปวดทรมาณของตัวของเขาเอง แล้วกล่าวว่า “ทำไมฉันทำอย่างนี้นะ?” อย่าเป็นอย่างพวกเขาเลยมันเป็นไปไม่ได้สำหรับท่านที่จะไม่ทำบาปด้วยเนื้อหนังของท่านพยายามอย่าทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ผมอยากจะให้ท่านเชื่อในพระเจ้าและสรรเสริญพระองค์
ท่านด้วยหัวใจของท่านเองจากนั้นเนื้อหนังก็จะเชื่อฟังหัวใจท่านได้พยายามที่จะเชื่อฟังพระเจ้า
ด้วยเนื้อหนังของท่านมาเป็นเวลานานหลังจากที่ท่านถูกช่วยให้รอดแล้วหรือไม่?ท่านมีปัญหาว่า
ท่านต้องการจะทำอะไรไหม?ถ้ามีปัญหาก็คือท่านพยายามที่จะรับใช้พระเจ้าด้วยเนื้อหนังไม่ใช่
ด้วยหัวใจของท่าน ทราบไหมว่ามีผู้ที่ไม่เคารพผม และ กล่าวร้ายผมว่าอย่างไร? พวกเขา หัวเราะเยาะผม ดูถูกผม แต่ผมแค่ยิ้มให้พวกเขาเพราะผมรู้ว่าพวกเขาไม่รู้จักว่าอะไรเกิดขึ้นกับผม
ผมสอนคำสอนของพระเยซูได้เพราะว่าพระเจ้าทรงล้างบาปทั้งหมดของผมออกไปแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นผมคงถูกพิพากษาและต้องตายเพราะพระเจ้าไปแล้วพระเจ้าทรงทำให้เราสมบูรณ์
โดยทรงสร้างพระวิญญาณขึ้นมาพระองค์ทรงทำให้เราด้วยพระทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระกรุณาพระ
องค์ทรงให้เราสนุกสนานกับพระพรของพระองค์ขอสรรเสริญพระเจ้าผู้ทรงทำให้เราเป็นบุตรของพระองค์! เลื่อมใสบูชาพระองค์เพียงพระองค์เดียว
มันไม่เคยสายเกินไปเลยในเนื้อหนังของท่านที่ไม่มีความมั่นใจ ตัณหาชั่วออกมาจากเรา ในตอนแรกแล้วก็เปลี่ยนไปทีละเล็กละน้อยเนื้อหนังมักจะต้องการสร้างตัวเองในช่วงแรกๆก่อน
พระเจ้า นี่คือเหตุผลที่พระเจ้าเป็นไปได้เพียงแค่ความศรัทธา มันเป็นไปไม่ได้ด้วยเนื้อหนัง อย่า หลอกตัวเองท่านเองก็ตามแม้หลังจากที่ท่านได้รับการช่วยให้รอดแล้วมันยังคงเป็นไปได้สำหรับ
เราในการตกลงไปแม้ว่าเราจะถูกครอบครองด้วยเนื้อหนังของเราเพราะว่าเราทราบดีว่าเนื้อหนัง
มักจะไม่สมบูรณ์และอ่อนแอ
เราเป็นคนของพระวิญญาณของความศรัทธาให้เนื้อหนังของท่านมีความไม่มั่นใจอ่านตามผม “เนื้อหนังของผมก็เหมือนกับถังขยะ” ผมอยากให้ท่านจดจำคำนี้อย่าไว้ใจตัวท่านเอง เราจะ ต้องเชื่อและปฏิบัติตามพระเจ้าด้วยหัวใจของเราผมขอขอบคุณพระเจ้าและสรรเสริญพระองค์เพื่อช่วยเราให้รอดพระอาชญาจากธรรมบัญญัติของพระเจ้า ฮาเลลูยา!