کورونا وائرس تے عالمگیر ڈاک سروس وچ رکاوٹ دے سببوں، اَسیں اپنی ’مُلوں بغیر چھاپی ہوئی کتاب دی سروس‘ نوں تھوڑے چِر لئی بند کر دے پئے آں۔
ایس صورتحال دے چانن وچ اسیں ایس ویلے تہانوں کتاباں گھلن دے قابل نئیں ہیگے آں۔
دُعا ہے پئی ایہہ وبائی بیماری چھیتی ای مُک جاوے تے ڈاک سروس کُھل جاوے۔
دُعا ہے پئی ایہہ وبائی بیماری چھیتی ای مُک جاوے تے ڈاک سروس کُھل جاوے۔
مضمون 4: ساڈیاں کتاباں دے پڑھن والیاں ولوں عام سوالنامہ
4-12. ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับการอัศจรรย์ของคริสเตียนในทุกวันนี้? พวกเขาไม่ได้ทำงานของ พระวิญญาณหรือ? ผมคิดว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ยังคงทำงานอยู่ในคริสตจักรของพระเจ้า
จากคำถามประเด็นเกี่ยวกับการอัศจรรย์ของคริสเตียนในวันนี้ ท่านคิดถูกเพียงบางส่วน
แต่ท่านต้องเตือนใจว่าการอัศจรรย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนั้นเป็นการให้ความเชื่อในพระเยซู คริสต์แก่
ประชาชน (ยอห์น 2:11) อีกนัยหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาติให้เกิดการอัศจรรย์เพื่อให้ประชาชน มีความเชื่อในพระเยซู คริสต์
เราสามารถหาการอัศจรรย์ต่างๆ ที่แสดงโดยอัครสาวก และศิษยานุศิษย์ของพระเยซู โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในหนังสือกิจการของอัครทูตพวกเขาสามารถพิสูจน์ความเชื่อจากการอัศจรรย์ถึงความจริงที่ว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ทรงรับเอาความผิดบาปทั้งหมดของเราไว้ โดยการรับ
บัพติศมาของพระองค์และพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทดแทนความผิดบาปทั้งหมดของเราโดยการหลั่งพระโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขน
แต่หลังจากเสร็จสิ้นพระวจนะของพระเจ้าที่บันทึกจารึกไว้ พระเจ้า พระบิดาทรงต้องการให้เรา เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์มากกว่าค้นหาการอัศจรรย์ต่างๆ นี่คือเหตุผลว่าเพราะเหตุใด พระ คัมภีร์ไบเบิลจึงบอกว่า “ความรักไม่มีวันสูญสิ้น แม้คำพยากรณ์ก็จะเสื่อมสูญไป แม้การพูดภาษา
ต่างๆนั้นก็จะมีเวลาเลิกไป แม้ความรู้ก็จะเสื่อมสูญไป เพราะที่เรารู้นั้นก็รู้แต่ส่วนหนึ่ง และ ที่เรา พยากรณ์นั้นก็ พยากรณ์แต่ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อความสมบูรณ์มาถึงแล้วความบกพร่องนั้นก็จะสูญไป” (1 โครินธ์ 13:8-10)
พระเยซูตรัสบอกหนึ่งในเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “โธมัสเอ๋ย เพราะท่านได้เห็นเราท่านจึงเชื่อ ผู้ที่ไม่เห็นเราแต่เชื่อก็เป็นสุข” (ยอห์น 20:29)
ความเชื่อที่แท้จริงไม่ได้มีพื้นฐานจากการอัศจรรย์ต่างๆที่ท่านเคยเห็นแต่มีพื้นฐานจากพระวจนะ
ของพระเจ้าที่ได้รับมาจากพระผู้เป็นเจ้า
แต่ท่านต้องเตือนใจว่าการอัศจรรย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนั้นเป็นการให้ความเชื่อในพระเยซู คริสต์แก่
ประชาชน (ยอห์น 2:11) อีกนัยหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาติให้เกิดการอัศจรรย์เพื่อให้ประชาชน มีความเชื่อในพระเยซู คริสต์
เราสามารถหาการอัศจรรย์ต่างๆ ที่แสดงโดยอัครสาวก และศิษยานุศิษย์ของพระเยซู โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในหนังสือกิจการของอัครทูตพวกเขาสามารถพิสูจน์ความเชื่อจากการอัศจรรย์ถึงความจริงที่ว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ทรงรับเอาความผิดบาปทั้งหมดของเราไว้ โดยการรับ
บัพติศมาของพระองค์และพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทดแทนความผิดบาปทั้งหมดของเราโดยการหลั่งพระโลหิตของพระองค์บนไม้กางเขน
แต่หลังจากเสร็จสิ้นพระวจนะของพระเจ้าที่บันทึกจารึกไว้ พระเจ้า พระบิดาทรงต้องการให้เรา เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์มากกว่าค้นหาการอัศจรรย์ต่างๆ นี่คือเหตุผลว่าเพราะเหตุใด พระ คัมภีร์ไบเบิลจึงบอกว่า “ความรักไม่มีวันสูญสิ้น แม้คำพยากรณ์ก็จะเสื่อมสูญไป แม้การพูดภาษา
ต่างๆนั้นก็จะมีเวลาเลิกไป แม้ความรู้ก็จะเสื่อมสูญไป เพราะที่เรารู้นั้นก็รู้แต่ส่วนหนึ่ง และ ที่เรา พยากรณ์นั้นก็ พยากรณ์แต่ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อความสมบูรณ์มาถึงแล้วความบกพร่องนั้นก็จะสูญไป” (1 โครินธ์ 13:8-10)
พระเยซูตรัสบอกหนึ่งในเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “โธมัสเอ๋ย เพราะท่านได้เห็นเราท่านจึงเชื่อ ผู้ที่ไม่เห็นเราแต่เชื่อก็เป็นสุข” (ยอห์น 20:29)
ความเชื่อที่แท้จริงไม่ได้มีพื้นฐานจากการอัศจรรย์ต่างๆที่ท่านเคยเห็นแต่มีพื้นฐานจากพระวจนะ
ของพระเจ้าที่ได้รับมาจากพระผู้เป็นเจ้า
Copyright © 2021 by The New Life Mission